หลังเสร็จสิ้นการเจรจาระดับสูงเป็นวันที่สองที่กรุงลอนดอน โดยโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรี พาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า "เราได้บรรลุกรอบการทำงานเพื่อดำเนินการตามฉันทามติที่นครเจนีวาและการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดี ของทั้งสองประเทศ" ลุตนิกกล่าวว่า เขาและเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อนุมัติกรอบการทำงานดังกล่าว พร้อมกับเสริมว่า หากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อนุมัติด้วย "เราก็จะดำเนินการตามกรอบการทำงาน"
การเปิดเผยของลุตนิกสอดคล้องกับที่หลี่ เฉิงกัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวในวันอังคาร (10 มิ.ย.) ว่า คณะเจรจาของจีนและสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงกรอบการทำงานด้านการค้าแล้ว หลังเสร็จสิ้นการเจรจาสองวัน และเขาจะนำเรื่องนี้กลับไปรายงานผู้นำจีน ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงกรอบการทำงาน เพื่อดำเนินการตามฉันทามติที่ผู้นำทั้งสองได้ตกลงร่วมกันในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. และฉันทามติที่มีการบรรลุร่วมกันในการประชุมที่นครเจนีวา
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้พบกับเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ลดลงสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% ขณะที่อัตราภาษีของจีนที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125%
ต่อมาในวันที่ 5 มิ.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน โดยปธน.ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านทรูธโซเชียล ระบุว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเขาและผู้นำจีน ซึ่งดำเนินไปเป็นเวลา 90 นาทีนั้น เป็นการสนทนาที่เป็นไปด้วยดี และมีเนื้อหาเกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งทำให้ได้ข้อสรุปที่ดีสำหรับทั้งสองประเทศ
#จีนสหรัฐ