สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ (9 มิ.ย.) ว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง ร้อยละ4.8 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น ร้อยละ5 ขณะที่ยอดนำเข้าร่วงลง ร้อยละ 3.4 ในเดือนพ.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียงร้อยละ 0.9
ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ของจีนชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้นร้อยละ 8.1 แม้จีนและสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว ซึ่งกระตุ้นให้ภาคธุรกิจเร่งจัดส่งสินค้าให้ทันก่อนที่การระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วันจะหมดอายุลง
ส่วนยอดนำเข้าของจีนปรับตัวลงต่อเนื่องในปีนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้บรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวในระหว่างการพบปะเจรจาที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงต้นเดือนพ.ค. โดยเห็นพ้องให้ปรับลดภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนลงเหลือร้อยละ 30 จากเดิมร้อยละ 145 และลดภาษีศุลกากรที่จีนเรียกเก็บจากสินค้าสหรัฐฯ ลงเหลือร้อยละ10 จากเดิมร้อยละ125
ทั้งนี้ คาดว่า รองนายกรัฐมนตรีเหอจะพบปะกับทีมเจรจาการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งนำโดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่กรุงลอนดอนในวันนี้ เพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่ โดยการเจรจารอบที่สองนี้มีขึ้นหลังจากความตึงเครียดปะทุขึ้นอีกครั้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าละเมิดข้อตกลงการค้าที่เจนีวา
#ส่งออกจีน
#สหรัฐ
แฟ้มภาพ