บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ฉบับที่ 1 โดยระบุว่า
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 23.54 น.ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการหยุดการขนถ่ายน้ำมัน ตามระเบียบวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามมาตรฐาน หลังจากนั้นระบบป้องกันของทุ่น SBM-2 (Breakaway Coupling) ได้ทำงานตามที่ออกแบบไว้ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่วาล์วของระบบป้องกันของทุ่นกำลังปิดจะมีน้ำมันบางส่วนไหลออกมา ซึ่งระบบถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบทุ่น SBM-2
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการวางบูมก่อนการขนถ่ายน้ำมันดิบไว้อยู่แล้ว ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติม และระบบทุ่น SBM-2 ไม่ได้เกิดความเสียหาย ส่วนคราบน้ำมันบนผิวน้ำทะเลเกิดจากคลื่นสูงและลมกรร โชกแรงทำให้น้ำมันบางส่วนหลุดออกจากแนวบูม และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ บริษัทฯ กำลังดำเนินการขจัดคราบน้ำมันตามแผนปฏิบัติการของโรงกลั่น และมีการทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการขจัดคราบน้ำมัน
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ บริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด จึงสั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเล ทั้งนี้กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์พร้อมประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน
จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ กระจายเป็นหย่อม ๆ บนผิวน้ำ ทั่วบริเวณพื้นที่ประมาณ 10 คูณ 10 เมตร และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศใต้ด้วยความเร็วกระแสน้ำประมาณ 1 นอต ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้กรมเจ้าท่ายังได้จัดส่งเรือชลธารานุรักษ์พร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์สำหรับการขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งประกอบด้วยบูมความยาว 200 เมตร น้ำยาขจัดคราบน้ำมันจำนวน 800 ลิตร ชุดแขนฉีดน้ำยา (Spray Arm) และเครื่องแยกน้ำมัน (Skimmer) โดยได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อควบคุมสถานการณ์และลดการแพร่กระจายของคราบน้ำมันให้ได้มากที่สุด
ด้านบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุของบริษัททันที สามารถหยุดการรั่วไหลได้แล้ว และดำเนินการล้อมพื้นที่ด้วยบูมจำนวน 3 เส้น พร้อมฉีดน้ำยาขจัดคราบน้ำมันในเบื้องต้นเพื่อควบคุมการกระจายตัวของคราบน้ำมัน
...
#น้ำมันดิบรั่วไหล
#กระทรวงคมนาคม