ตัวเลขจ้างงาน-ดัชนีภาคบริการสหรัฐ ร่วงหนัก -หุ้นดาวโจนส์บวกได้ ราคาน้ำมันโลกลดลง

          ปัจจัย สำคัญที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ หลังเปิดเผยตัวเลข ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ หดตัวลงในเดือนพฤษภาคม นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 12 เดือน เช่นเดียวกับต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบตัวเลขเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

          นอกจากนั้น ตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยนักลงทุนให้ความสำคัญกับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนทางการค้า 

          นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามอย่างใกล้ชิดถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ ส่งผล ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 91.90 จุด (-0.22%) ปิดที่ 42,427.74 จุด

• ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.44 จุด (+0.01%) ปิดที่ 5,970.81 จุด

• ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 61.53 จุด (+0.32%) ปิดที่ 19,460.49 จุด

          ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงหลังจากสำนักงานพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสต็อกน้ำมันดิบที่สูงกว่าคาดการณ์ สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปทาน ท่ามกลางภาวะตึงเครียดด้านการค้าและการเพิ่มกำลังการผลิตจากกลุ่ม OPEC+

• น้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.88% ปิดที่ 62.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

• น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 1.17% ปิดที่ 64.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะเดียวกัน ราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยนักลงทุนยังคงจับตาข้อมูลด้านแรงงานและผลของการเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้า

• ทองสปอต เพิ่มขึ้น 0.62% ปิดที่ 3,372.86 ดอลลาร์/ออนซ์

• ทองคำล่วงหน้า เพิ่มขึ้น 0.64% ปิดที่ 3,371.50 ดอลลาร์/ออนซ์

#น้ำมันโลก