ชาวกรีกผู้มีสิทธิ์ออกเสียงร้อยละ 60 ของทั้งประเทศไปใช้สิทธิ์ในการลงประชามติว่าจะรับหรือไม่รับเงื่อนไขของกลุ่มเจ้าหนี้ ซึ่งจากผลการนับคะแนนที่ผ่านไปแล้วร้อยละ 94 พบว่า มีผู้ออกเสียงไม่รับ (NO) ร้อยละ 62 และมีผู้โหวตรับ (YES) ร้อยละ 38 ซึ่งทำให้เกิดความกังวลต่อเนื่องไปถึงเรื่องผลกระทบที่จะตามมา ทั้งการที่จะต้องออกจากกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโร หรือ ยูโรโซน ตลอดจนผลกระทบต่อตลาดเงินโลก
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจความเห็นของ 4 สำนักก่อนหน้านี้ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ตอบว่า รับเงื่อนไข และนักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นว่า ไม่ว่าผลประชามติจะออกมาในรูปใด ก็จะมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น ซึ่งยังทำให้ชาวกรีกต่างพากันกักตุนอาหารและสินค้าที่จำเป็น เพราะเชื่อว่าสถานการณ์หลังการลงประชามติจะเลวร้ายลงไปอีก นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ยังเห็นว่า การปฏิเสธความช่วยเหลือจากกลุ่มเจ้าหนี้ จะหมายถึงการที่กรีซจะต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยตนเอง
สำหรับธนาคารกรีซจะเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ขณะที่เยอรมนีระบุว่า หากกรีซต้องออกจากการเป็นสมาชิก อาจเป็นแค่ชั่วคราว เพราะอย่างไรแล้วกรีซคือส่วนหนึ่งของอียู
ประธานาธิบดีเบจิ เอสเซบซี ผู้นำตูนิเซีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันการก่อการร้าย ซึ่งสืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่นายไซเฟดดีน เรซกุย นักศึกษาปริญญาโท วัย 23 ปี บุกกราดยิงนักท่องเที่ยวในเมืองซูสซ์ จนมีผู้เสียชีวิต 38 ศพเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ซึ่งประธานาธิบดีชี้แจงว่า มาตรการฉุกเฉินจะเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจตราเพื่อยับยั้งการก่อการร้าย
กองทัพนานาชาติในนามแนวร่วมปราบปรามกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา นำกำลังโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่ตั้งของ ไอเอสในจังหวัดรักคา ที่อยู่ทางตอนเหนือ โดยทิ้งระเบิดทำลายล้างต่อเนื่อง 16 ครั้ง ถือเป็นการปราบปรามครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ใช้มาตรการโจมตีทางอากาศเมื่อปีก่อน ซึ่งกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ระบุว่ามีนักรบไอเอสเสียชีวิตอย่างน้อย 23 ศพแต่มีโรงเรียนบางแห่งถูกลูกหลงไปด้วย และมีประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 6 ศพที่รวมถึงเด็กนักเรียนด้วย
สำนักงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของมาเลเซียตรวจสอบรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีตเจอร์นัล ของสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่าเงินลงทุนของบริษัท 1 มาเลเซีย เดเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด ซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าของ ถูกโอนเข้าบัญชีนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก และทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่าจะเกิดความไม่โปร่งใส แต่นายกรัฐมนตรียืนกรานปฏิเสธ และขู่ว่าจะฟ้องวอลล์สตรีตเจอร์นัล
ทางการจีนเร่งสอบสวนหาสาเหตุ ที่ทำให้อาคารโรงงานผลิตรองเท้าถล่มที่เมืองเหวินหลิง ในมณฑลเจ้อเจียง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ศพบาดเจ็บกว่า 30 คน จากที่ขณะเกิดเหตุมีคนงานกำลังทำงานอยู่ 51 คน
ตำรวจที่เมืองจีอาน มณฑลจี้หลินของจีน เร่งหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายชอย ดูยอง ประธานสถาบันพัฒนาเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ ที่เสียชีวิตจากเหตุตกจากโรงแรมขนาด 4 ชั้น ซึ่งผลการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า เขาเดินทางมากับนายชอง แชกัน รัฐมนตรีช่วยของกระทรวงกิจการภายใน เพื่อติดตามกรณีรถโดยสารของท่องเที่ยวเกาหลีใต้ประสบเหตุตกสะพานในจี้หลิน จนมีผู้เสียชีวิต 10 ราย เมื่อสัปดาห์ก่อน
นอกจากนี้ยังมีเหตุกลุ่มผู้ประท้วงชาวมุสลิมตุรกีสายเคร่งทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวจีน โดยพวกเขาไม่พอใจที่รัฐบาลจีนลิดรอนสิทธิชาวอุยกูร์ ในเขตซินเกียง-อุยกูร์ ของจีน ด้วยการห้ามถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน
สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศยุติการเก็บค่าใช้จ่ายจากบริการโทรศัพท์ข้ามประเทศ หรือ โรมมิ่ง (Roaming) ภายในประเทศสมาชิกอียู ภายในเดือนมิถุนายน 2560 โดยในระหว่างนี้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ยังสามารถเก็บค่าใช้บริการจากโรมมิ่งได้ แต่ต้องเป็นไปในอัตราที่ทางการอียู กำหนดไว้ คือ ไม่เกิน 0.05 ยูโร หรือราว 1.88 บาทต่อนาที 0.02 ยูโร หรือราว 75 สตางค์ต่อข้อความ และ 0.05 ยูโร หรือราว 1.88 บาทต่อข้อมูลดาวน์โหลด 1 เมกะไบต์ (MB) ซึ่งจะส่งผลให้ค่าบริการโรมมิ่งลดลงจากเดิมร้อยละ 75
เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงภายในโรงงานผลิตอาวุธในประเทศมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นของบริษัทเอกชน ทารา แอโรสเปซ แอนด์ ดีเฟนซ์ โพรดัคต์ส ซึ่งมีไฮน์ริช โธเมต นักธุรกิจจากสวิตเซอร์แลนด์เป็นเจ้าของกิจการ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ศพและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 7 คน ซึ่งเป็นเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้วนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 โดยเหตุระเบิดสองครั้งก่อนหน้านี้ที่โรงงานผลิตอาวุธแห่งเดียวกันส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 7 คน
โรงงานผลิตอาวุธแห่งนี้ เป็นแหล่งผลิตยุทโธปกรณ์ให้กับลูกค้า ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหภาพยุโรป (อียู) และอีกหลายประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน
*-*