นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กับจส. 100 ระบุว่า สถานการณ์ในประเทศไทย คือ หาไม่ตรวจก็ไม่พบโรค โดยมองว่าตัวเลขผู้ติดโควิดน่าจะมากกว่านี้ แต่เนื่องจากมีอาการไม่หนัก ผู้ติดเชื้อจึงไม่ได้ เข้าสู่ระบบการรักษา และปัจจุบัน โควิด-19 จัดเป็นโรคประจำฤดูกาล เป็นโรคที่อยู่กับเราตลอด และ จะเพิ่มมากขึ้นตามฤดูกาล เหมือนโรคทางเดินหายใจอื่นๆ
ในช่วงหลังสงกรานต์ มีการเดินทางกันเยอะ และประเทศไทยไม่ฤดูหนาว ทำให้โควิดมีการติดเชื้อกันมาก ในช่วงฤดูฝนแทน ส่วนใหญ่นักเรียน เป็นส่วนหนึ่งในการแพร่กระจายโรคมาที่สุด โดยคาดกว่า หลังเดือน กค.เป็นต้นไป ผู้ติดเชื้อจะะลดน้อยลง
สำหรับ โควิด-19ไม่ได้รุนแรง ไม่สามารถให้หยุดได้ 7-10 วัน เพียงหากอาการดีขึ้น ก็ให้ ไปทำงาน ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่จะใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ใช้เจลแอลกอฮอล์ ขอให้ทำด้วยความสมัครใจคนที่ไม่สบายควรใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ
สถานการณ์ โควิด-19 ช่วงวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2568 มีผู้ป่วยรายใหม่ 65,880 ราย เสียชีวิต 3 ราย โดยพบว่ากลุ่มอายุ 30-39 ปี เป็นกลุ่มป่วยสูงสุด 12,403 ราย รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 20-29 ปี รวม 10,368 ราย กลุ่ม 60 ปีขึ้นไป 9,590 ราย โดยโควิด-19 ยังระบาดต่อเนื่องในช่วงฤดูฝน
ส่วนสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ก็มีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกัน ในประเทศไทยเป็นโรคระบาดประจำถิ่นที่พบผู้ป่วยทุกปี กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุด คือเด็กอายุ 5-9 ขวบ แต่อัตราการเสียชีวิตมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หรือคนที่มีโรคประจำตัว ที่ผ่านมา ได้มีการระดมฉีดวัคซีนให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสูญเสียลดลง โดยเป้าหมายการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในปีงบประมาณ 2568 ขยายการฉีดวัคซีนจาก 4.5 ล้านโดส เป็น 6 ล้านโดส
#โควิด19