จีนกล่าวหาสหรัฐฯสร้างประเด็นขัดแย้งใหม่ๆ แม้ตกลงให้พักสงครามภาษีชั่วคราว

02 มิถุนายน 2568, 15:10น.

ต่างประเทศ

          แม้ว่าจีนและสหรัฐฯตกลงให้พักสงครามภาษีไว้เป็นเวลา 90 ในช่วงที่คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายประชุมกันในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ในเดือนที่แล้ว ซึ่งสหรัฐฯและจีนตกลงให้มีการปรับลดภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้าสินค้ามาอยู่ที่ร้อยล 30 และร้อยละ 10 ตามลำดับ ช่วยให้ลดความตึงเครียดลงมาพอสมควร


          แต่กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ในวันนี้( 2 มิ.ย.)กล่าวหาสหรัฐฯว่า ใช้วิธียั่วยุให้เกิดประเด็นความขัดแย้งใหม่ๆในเรื่องเศรษฐกิจและการค้า เช่น การควบคุมการส่งออกซอฟแวร์ การเลือกปฏิบัติ เช่น การห้ามหน่วยงานรัฐและเอกชนสหรัฐฯใช้ชิปจากบริษัทหัวเว่ยของจีน อีกทั้งดำเนินการในเรื่องอื่นๆที่กระทบความสัมพันธ์ทวิภาคี เช่น การที่สหรัฐฯอนุมัติให้บริษัทผลิตอาวุธสหรัฐฯขายอาวุธให้กับไต้หวัน และการประกาศมาตรการจำกัดการออกวีซ่าสำหรับนักศึกษาจีนเมื่อเร็วๆนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับจีน 


          ทั้งนี้ สาเหตุของความตึงเครียดรอบใหม่ มีขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯโพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กล่าวหาจีนไม่ยอมยกเลิกอุปสรรคการค้าที่ไม่เกี่ยวกับภาษี เป็นการละเมิดข้อตกลงการค้าตามที่ตกลงไว้ที่นครเจนีวา  ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ความขัดแย้งนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของข้อตกลงสงบศึก 90 วัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายนัดเจรจาเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาพิพาททางการค้าในระยะยาว แต่กลับมีประเด็นขัดแย้งใหม่ๆ เช่น การที่ประเทศจีนห้ามส่งอกแร่หายากไปยังสหรัฐฯและไม่ผ่อนคลายการส่งออกตามที่สหรัฐฯคาดหวัง ส่งผลให้มีความไม่ชัดเจนในเรื่องการเจรจาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองว่าจะดำเนินไปในทิศทางใดในอนาคต


          นักวิเคราะห์ระบุว่า ผลจากความตึงเครียดทางการค้าในช่วงที่ผ่านมา มีกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งสอง โดยภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพ.ค.ขณะที่สหรัฐฯเผชิญกับภาวะผันผวนของตลาดหุ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เป็นผลพวงจากนโยบายตอบโต้ทางภาษีทั่วโลกโดยรัฐบาลทรัมป์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้ว่าทั้งสองฝ่ายตกลงให้พักสงครามการค้าและภาษีไว้ชั่วคราว แต่มีแนวโน้มสูงที่อาจจะมีประเด็นความขัดแย้งใหม่ๆ จากการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีและยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน


#จีนสหรัฐ


#สงครามการค้า


ที่มา: cnn


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวทั้งหมด

X