รวบมือระเบิด! ปมความเกลียดชัง ชาวยิวในรัฐโคโลราโด สหรัฐ

         นายสตีเฟน เรดเฟิร์น หัวหน้าตำรวจเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐฯเปิดเผยว่า ตำรวจจับกุมคนร้ายคือนายโมฮาเหม็ด ซาบรี โซลิมาน อายุ 45 ปี และอยู่ระหว่างสอบสวน หลังก่อเหตุขว้างระเบิดเพลิงใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่ง ขณะร่วมกิจกรรม Run for Their Lives ที่บริเวณห้างสรรพสินค้า เพิร์ล สตรีท มอลล์ ในเมืองโบลเดอร์ เมื่อเวลา 13.26น.ของวันอาทิตย์(1 มิ.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้บาดเจ็บ 6 คน อายุระหว่าง 67-88 ปี ส่วนใหญ่มีแผลไหม้ตามร่างกาย ถูกหน่วยกู้ภัยนำตัวส่งยังโรงพยาบาล ขณะที่คนร้ายบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาลเช่นกัน

         โดยกิจกรรมนี้ ชาวยิว ซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐฯจัดขึ้นเพื่อให้กำลังใจแก่ตัวประกันอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไปขังไว้ในเขตฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 โดยขณะก่อเหตุ คนร้ายตะโกนว่าจงปลดปล่อยปาเลสไตน์ ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐฯเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯได้รายงานเรื่องแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเพื่อทราบแล้ว

         ตำรวจสหรัฐฯระบุว่า จากการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ คนร้ายขว้างขวด ซึ่งดูเหมือนจะบรรจุของเหลวชนิดติดไฟง่ายลงยังพื้นในจุดที่มีการจัดกิจกรรม ทำให้ขวดระเบิด และเกิดไฟไหม้ ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมบาดเจ็บ และตำรวจเชื่อว่า คนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว

         ด้านนายแคช ปาเทล หัวหน้าสำนักงานสอบสวนกลาง(FBI)ของสหรัฐฯสั่งการให้เจ้าหน้าที่ FBI ทำการสอบสวนในความผิดฐานก่อการร้าย ถึงแม้ว่าหน่วยงานท้องถิ่นระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะระบุลักษณะคดีว่า เป็นคดีอาญาทั่วไปหรือ คดีก่อการร้าย ด้านนางทูลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯระบุว่า ศูนย์ปราบปรามก่อการร้ายแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ พร้อมหน่วย FBI จะทำงานร่วมกับตำรวจท้องถิ่น เพื่อคลี่คลายคดีโดยเร็ว

         ด้านนายจาเร็ด โพลิส ผู้ว่าการรัฐและนายฟิล วีเซอร์ อัยการสูงสุดของรัฐโคโลราโด ประณามการโจมตีกลุ่มผู้จัดกิจกรรมอย่างสันติว่าเป็นการก่อเหตุโจมตีจากความเกลียดชังชาวยิว ทั้งนี้ เหตุรุนแรงในครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นาน หลังเหตุคนร้ายกราดยิงเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลที่บริเวณใกล้พิพิธภัณฑ์ยิวในกรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตของชาวยิวในสหรัฐฯ

#สหรัฐฯ/p>

#โจมตีชาวอิสราเอล/p>

#คดีก่อการร้าย/p>

#ที่มา :cnn,bbc/p>