เว็บไซต์ข่าวเขมรไทม์ของกัมพูชา รายงานในวันนี้(29 พ.ค.)ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เปิดเผยว่า การที่กัมพูชาส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าไปตรึงกำลังในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ไม่ได้มุ่งเพื่อทำสงคราม แต่เป็นเพียงมาตรการเฝ้าระวังความมั่นคงในกรณีที่ฝ่ายข้าศึกรุกล้ำดินแดนกัมพูชา พร้อมย้ำเรื่องสิทธิ์การป้องกันตนเอง
นายฮุน เซน โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คเมื่อเช้าวันนี้ กรณีเหตุปะทะระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยใกล้พื้นที่ชายแดนในอำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร เมื่อเช้ามืดวานนี้(28 พ.ค.) มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 ราย ระบุว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น ทราบเรื่องเสริมทหารเข้าไปตรึงกำลังในพื้นที่ชายแดนแล้ว
นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาไม่ได้ส่งอาวุธหนัก ไม่ว่าจะเป็นทหารที่เคลื่อนกำลังพลไปถึงพื้นที่ชายแดนแล้วหรือที่อยู่ระหว่างเดินทาง เพื่อหวังโจมตีประเทศไทย แต่กัมพูชาต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งกัมพูชาถอดบทเรียนมาจากเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาและทหารไทยเคยปะทะกันในปี 2551 และปี 2564 พร้อมทั้งขอส่งข้อความนี้ไปถึงประชาชนในกัมพูชาและชาวไทยในฐานะเพื่อนบ้านให้ทราบถึงเจตนารมย์ของกัมพูชา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุปะทะในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทยเมื่อวานนี้ อาจจะเกิดจากปัญหาเฉพาะตัวบุคคล ไม่สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมของไทย
ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค แสดงความหวังว่า การประชุมของผู้บัญชาการกองทัพของประเทศทั้งสองในบ่ายวันนี้ จะมีผลในเชิงบวก เพื่อความั่นคงในพื้นที่ชายแดนและมีการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอระหว่างกองทัพของประเทศทั้งสอง ดั่งเช่นที่เคยทำมาในอดีต ย้ำว่ากัมพูชาไม่มีเจตนารุกรานประเทศไทย ขอให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาพิพาทโดยใช้เหตุผลและกฏหมายระหว่างประเทศ
#ฮุนเซน
#แจงตรึงกำลังพลใกล้ชายแดน
ที่มา: เขมรไทม์, เอเอฟพี