วันนี้ ( 23 พ.ค.68 ) เมื่อเวลาประมาณ 15.17 น. ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ชี้แจง เหตุการณ์บนเที่ยวบิน FD3092 เส้นทางภูเก็ต – ดอนเมือง ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย หลังผู้โดยสารชาวไทยรายหนึ่งกล่าวคำต้องห้ามเกี่ยวกับระเบิดบนเครื่อง ทำให้ต้องดำเนินการตามแผนฉุกเฉินทันที เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.17 น. ขณะเครื่องบินแบบ Airbus A321 กำลังเตรียมออกเดินทาง นักบินได้รับรายงานจากลูกเรือว่า ผู้โดยสารคนหนึ่งพูดว่า “มีระเบิดอยู่บนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ” จึงรีบแจ้งหอบังคับการบินและนำเครื่องกลับมาจอดที่หลุมจอดพิเศษหมายเลข 99 (Isolate Parking)
ท่าอากาศยานภูเก็ต ประกาศใช้แผนฉุกเฉินสำหรับกรณีขู่วางระเบิด พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน (EOC) เพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สายการบิน, ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ผู้โดยสารทั้งหมดจำนวน 200 คนได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งตัวบุคคล สัมภาระ และพื้นที่โดยรอบ เบื้องต้นไม่พบวัตถุหรือสิ่งผิดปกติใด ๆ ขณะนี้ทางสายการบินได้เรียกผู้โดยสารกลับขึ้นเครื่อง พร้อมให้ทุกคนแสดงตัวเป็นเจ้าของสัมภาระก่อนเดินทางต่อ
ท่าอากาศยานภูเก็ต ยืนยันดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ทุกคน
ก่อนหน้านี้ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ย้ำว่า คำพูดที่แม้จะเป็นการพูดเล่น เช่น“ในกระเป๋ามีระเบิด” “มีระเบิดในสนามบิน” “เครื่องบินจะระเบิด” “เครื่องบินกำลังจะตก” “จี้เครื่องบินซะเลย” “เรามีปืนนะ” แต่คำพูดนั้นทำให้ถูกดำเนินคดีได้ เนื่องจาก พ.ร.บ.ความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 22 ระบุว่า ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 – 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#คำห้ามพูด
#สนามบินภูเก็ต