การติดตามคดีการเสียชีวิตของนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม9 คาเฟ่ บริเวณลานจอดรถร้านเฮงหูฉลาม ย่านคลองตัน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29มิ.ย.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ให้พนักงานสอบสวนของกองบังคับการกองปราบปรามและ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ร่วมกันทำคดีนี้ และพล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุดทำงานดำเนินการสืบสวน สอบสวนก่อน ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทางคดีได้ เนื่องจากในคดีนี้มีหลายประเด็นที่จะต้องสรุปเพื่อความแน่ชัด
ส่วนการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ มีคดีสำคัญที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือไอซ์ และยาบ้า 3คดีที่เตรียมลำเลียงนำส่งลงพื้นที่ภาคใต้ พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด วางแผนขยายผลจับกุมนายอภิชาติ นิเต็ง อายุ 18 ปี เป็นคนในพื้นที่ ต.สามพี่น้อง. อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี และนายธีระยุทธ ราชจินดา อาศัยอยู่ที่ ต.ท่าช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎรธานี พร้อมของกลางไอซ์จำนวน 15 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถกระบะโตโยต้า 1 คัน บัตรกดเงินสด 1 ใบ พร้อมปืนพกสั้นและลูกซองยาว รวม 7 กระบอก และเครื่องกระสุน 285 นัด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลาง เพื่อส่งต่อไปยังภาคใต้ นายอภิชาติจะเดินทางมากับรถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ- หาดใหญ่- ด่านนอก จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์จับกุม ที่สถานีขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเมื่อพบนายอภิชาติ พร้อมของกลาง เจ้าหน้าตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมขยายผลการจับกุมไปยังนายธีระยุทธ ที่รอรับของกลางอยู่ที่สถานีขนส่งสุราษฏร์ธานี เมื่อเจ้าหน้าที่พบนายธีรยุทธ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
นอกจากนี้ยังพบว่า นอกจากนายธีระยุทธ ที่มารอรับยาบ้าแล้ว ยังมีนายสมโชค ราชจินดา ซึ่งยังเป็นอีก 1คนในขบวนการ ที่ขับรถมารอรับของกลางด้วย แต่ไหวตัวทัน หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมนายสมโชค มาดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลไปตรวจค้นบ้านของนายสมโชค ซึ่งได้ตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนดังกล่าว จึงได้ดำเนินการยึดเป็นของกลางในคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าว: วิรวินท์ ศรีโหมด