วันนี้ ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษา ตัดสินคดีการเสียชีวิตของ นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดังที่ตกเรือเสียชีวิต เมื่อ 3 ปีก่อน แก่ จำเลยทั้ง 4 คน ได้แก่ กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์, แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์, จ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร และ ภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี ในความผิด ฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระติก อิจศรินทร์ พร้อมกับทนายความ ได้เดินทางมาถึงก่อนเป็นคนแรก และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน เพียงแค่หันมายิ้มทักทายเท่านั้น ก่อนที่จะเดินขึ้นไปบริเวณศาลจังหวัดนนทบุรี จากการสอบถามทางทนายความส่วนตัวพบว่า กระติกมีความกังวลใจเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ไม่มีอะไรน่าห่วง ซึ่งภายหลังจากฟังคำพิพากษาแล้วจะลงมาให้สัมภาษณ์ทีเดียว
ด้านนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เดินทางมาถึงที่ศาลฯ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไรเช่นกันทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางตามมาหลังจากแม่ของแตงโมขึ้นศาล โดยเปิดเผยว่า วันนี้ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นดุลยพินิจของศาลว่าท่านจะตัดสินออกมาอย่างไร เป็นอุบัติเหตุหรือประมาท รวมไปถึงเกี่ยวข้องกับการแจ้งความเท็จ หรือยุยงส่งเสริมให้แจ้งความเท็จ หรือทำลายหลักฐานหรือไม่
ทนายเดชา กล่าวว่า ส่วนตัวยังมั่นใจในหลักฐานของตำรวจภูธรภาค 1 และอัยการ โดยคดีนี้คุณแม่เป็นโจทก์ร่วม ส่วนพนักงานอัยการเป็นโจทก์ เพราะฉะนั้นหลักฐานในสำนวนจะเป็นของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และสำนักงานอัยการ ซึ่งมีความมั่นใจในการตัดสินในวันนี้ เพราะน่าจะมีการเขียนคำพิพากษาอย่างละเอียด
ส่วนกรณีของดีเอสไอจะทำการอย่างไรกับคดีนี้ เป็นเรื่องของดีเอสไอ แต่เชื่อว่าศาลจังหวัดนนทบุรี และอธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 1 จะเขียนคำพิพากษาออกมาอย่างละเอียด ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุในชั้นสืบสวนสอบสวน และการสั่งฟ้องต่างๆ รวมไปถึงบรรยายพฤติการณ์เหตุการณ์บนเรือ การชักชวน และการเตรียมไวน์ต่างๆ เทียบให้เห็นว่าต่างคนต่างทำหน้าที่อะไรบ้าง ต่างคนต่างประมาทหรือไม่ เพื่อปิดช่องไม่ให้คนอื่นเอาคำพิพากษาไปหาประโยชน์ เนื่องจากยังมีประเด็นที่สังคมเคลือบแคลงใจ และประชาชนสงสัยหลายประเด็นในการทำคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ และ “ทนายตุ๋ย” หรือนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ เดินทางมาถึงที่ศาล โดย แซน เปิดเผยว่า ส่วนตัววันนี้ไม่ได้มีความรู้สึกกังวลใจอะไร แต่รู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี เป็นช่วงเวลาที่นานและระหว่างทางก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ดีใจที่วันนี้จะหมดเวลาของ fake news hour แล้ว ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรอยากจะบอกกับสังคมแล้ว หากสังคมอยากจะคิดอะไร ก็แล้วแต่
ด้าน “ทนายตุ๋ย” ระบุว่า วันนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษา และเท่าที่ตัวเองสอบถามจำเลยทุกคน พร้อมมารับฟังคำพิพากษา ซึ่งวันนี้ไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร จำเลยทุกคนพร้อมน้อมรับคำพิพากษา และหลังมีคำพิพากษา ทนายจำเลยต้องดูว่าต้องอุทธรณ์หรือไม่ และที่ผ่านมาทนายก็ต่อสู้ตามฐานความผิดที่แต่ละคนถูกกล่าวหา เพราะข้อหามากน้อยต่างกัน แต่ฐานความผิดหลักคือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ส่วนข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มี 2 จำเลยก่อนหน้านี้ รับสารภาพไปแล้วนั้น ทนายตุ๋ย บอกว่า ทั้ง 4 คนที่เหลือ ก็เป็นกลุ่มคนนบนเรือที่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน ถูกกล่าวหาในข้อหาเดียวกัน เมื่อมีการรับสารภาพของจำเลยบางคนแล้ว ตามหลักกฎหมายเมื่อถูกแยกสำนวนออกมา จำเลยก็ปฏิเสธและสู้คดีมาจนถึงวันนี้ ซึ่งจำเลยทั้ง 4 คนก็สู้ว่าไม่ได้ประมาท เป็นเหตุให้เสียชีวิต เพราะคนขับเรือรับสารภาพไปแล้ว และที่เหลือเป็นเพียงผู้โดยสาร ซึ่งการต่อสู้คดีที่ผ่านมา เป็นการต่อสู้คดีด้วยพฤติการณ์ ข้อเท็จจริง และลักษณะการอยู่ในเรือว่าใครมีหน้าที่อย่างไร