นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เรื่องปลดล็อกโอกาสเติบโตธุรกิจบริการซอฟต์แวร์และดิจิทัลไทย พบว่า ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลและบริการแห่งอนาคต ทั้งการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เป็นเครื่องมือธุรกิจ ซึ่งธุรกิจบริการซอฟต์แวร์และดิจิทัล เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง อีกทั้งธุรกิจบริการซอฟต์แวร์และดิจิทัลของไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะให้ความสำคัญและส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในธุรกิจขับเคลื่อนภาคบริการของประเทศ
โดยในปี 2566 มูลค่าการใช้จ่ายด้านธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ของโลก มีการเติบโตร้อยละ 3.8 มูลค่ารวม 4 ล้าน 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2567 คาดว่าการใช้จ่ายจะสูงถึง 5 ล้าน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 ขณะที่การค้าบริการระหว่างประเทศของโลก สาขาบริการโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ และสารสนเทศ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในส่วนของไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดเผยว่า ธุรกิจบริการซอฟต์แวร์และดิจิทัลของไทย มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ธุรกิจบริการซอฟต์แวร์และดิจิทัลไทยมีมูลค่า 567,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.79 และในปี 2566 GDP ในสาขาบริการข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร มีสัดส่วนร้อยละ 2.82 ของ GDP ทั้งหมดของไทย และคิดเป็นร้อยละ 4.63 ของ GDP ภาคบริการของไทย
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบริการซอฟต์แวร์และดิจิทัลของไทย ยังมีความท้าทายหลายประการ อาทิ การเป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และข้อจำกัดด้านเงินทุน จึงแนะนำให้ภาครัฐและเอกชนควรมีส่วนร่วม ในการวางรากฐานนวัตกรรม, มีทุนหนุนเทคโนโลยี รวมถึงการส่งเสริม IP ดิจิทัล และขยายเป้าการค้าการลงทุน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านดิจิทัลของอาเซียน เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสในการขยายธุรกิจบริการไทยให้เป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางบริบทโลกที่ผันผวน
...
#เศรษฐกิจ
#สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า