สหประชาชาติ รายงานว่า รถบรรทุกความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม 90 คันเดินทางถึงฉนวนกาซาแล้ว หรือ 3 วันหลังจากที่อิสราเอลผ่อนคลายการปิดล้อมที่กินเวลานาน 11 สัปดาห์
รถบรรทุกความช่วยเหลือซึ่งประกอบไปด้วยแป้ง อาหารเด็ก และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เดินทางผ่านด่านตรวจคาเรม ชาลอม เมื่อคืนวันพุธ (21 พ.ค.68) และนำไปที่โกดังเพื่อแจกจ่าย ซึ่งความล่าช้าที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่ปลอดภัยบนเส้นทางที่กองทัพอิสราเอลกำหนดให้เดินทาง ซึ่งสหประชาชาติย้ำเตือนอีกครั้งว่า ความช่วยเหลือเหล่านี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะในปัจจุบันประชากรจำนวน 2 ล้าน 1 แสนคนกำลังเผชิญกับภาวะหิวโหยอย่างรุนแรง มีความขาดแคลนอาหาร และราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น
ขณะเดียวกันคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) จัดส่งเวชภัณฑ์ไปยังโรงพยาบาลสนามในเมืองราฟาห์ทางภาคใต้ แต่ยังไม่เพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในพื้นที่
อิสราเอลปิดกั้นการส่งมอบความช่วยเหลือฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม (2568) เพื่อกดดันให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 58 คน ซึ่งเชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ 23 คน ทั้งยืนยันว่าฉนวนกาซาไม่ได้ขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็น แต่เป็นเพราะกลุ่มฮามาสขโมยสิ่งของเหล่านั้นแล้วนำไปแบ่งปันในกลุ่มหรือนำไปขาย แต่กลุ่มฮามาสปฏิเสธข้อกล่าวหา
ขณะเดียวกัน การโจมตีทางอากาศและปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไปทั่วฉนวนกาซา โดยกระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสรายงานว่าการโจมตีในช่วง 24 ชั่วโมงของวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.68) มีผู้เสียชีวิต 107 ราย โดยที่จาบาเลียมีสมาชิกครอบครัวหนึ่งจำนวน 16 คนเสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากบ้านเรือนของพวกเขาตกเป็นเป้าหมายการโจมตี นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลยังออกคำสั่งอพยพประชาชนออกจากจาบาเลียและพื้นที่ทางตอนเหนืออีก 13 แห่งเมื่อวันพฤหัสบดี โดยเตือนว่ากองทัพกำลังมีปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่นี้เพื่อปราบปรามกลุ่มฮามาส
ตามข้อมูลของสหประชาชาติ พื้นที่ประมาณร้อยละ 81 ของฉนวนกาซาอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ หรือเป็นเขตห้ามเข้าเนื่องจากมีทหารควบคุมอยู่ ประเมินว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา มีผู้คนเกือบ 600,000 คนที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยอีกครั้ง
...
#ฉนวนกาซา
#อิสราเอล