หลังศาลจังหวัดเกาะสมุย ออกหมายจับ นายสุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่ารัดคอ น.ส.อัญชุลี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี พยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เสียชีวิตในห้องพักบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ล่าสุดวันที่ 22 พ.ค.2568 รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายสุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ได้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น นายสุวัฒน์ รับสารภาพว่า
ไม่ได้รู้จักกับผุ้ตายเป็นการส่วยตัวแต่วันเกิดเหตุพบว่าประตูห้องด้านหลังเปิดอยู่ จึงปีนเข้าไปและตั้งใจจะหยิบแหวนทองแต่ผู้ตายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก้อนและร้องโวยวายจึงเกิดการต่อสู้กันและผู้ตายได้กัดเข้าที่นิ้ว จึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้มือและผ้ารัดคอจนเกิดเหตุดังกล่าว เมื่อตั้งสติได้จึงขับรถผุ้ตายหลบหนี ยืนยันไม่ได้ข่มขืน ผู้เสียชีวิตไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่แล้ว รู้สึกผิดมากไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุดังกล่าว ขอโทษครอบครัวผุ้เสียชีวิตด้วย
และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. ตำรวจได้มีการคุมตัวนายสุวัฒน์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยเมื่อไปถึง นายสุวัฒน์ได้ชี้จุดบริเวณห้องพักของตัวเอง คือ ห้องหมายเลข 210 โดยอ้างว่าก่อนเกิดเหตุตนเองได้นอนหลับอยู่กับแฟนสาว ซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ในห้องข้างๆ หลังจากที่แฟนสาวนอนหลับแล้ว จึงได้ปีนข้ามระเบียงด้านหลัง เพื่อมายังห้องของผู้ตายซึ่งอยู่ติดกัน ก่อนจะเข้ามาก่อเหตุ โดยอ้างว่าตั้งใจจะเข้ามาลักทรัพย์เท่านั้น
เมื่อมาภายในห้อง พบผู้ตายนอนหลับอยู่ และมองเห็นว่ามีถุงทองวางอยู่ข้างเตียง จึงย่องไปปิดไฟ ก่อนจะเดินไปหยิบถุงทอง ซึ่งจังหวะนั้นผู้ตายเกิดรู้สึกตัว นายสุวัฒร์อ้างว่า ตอนนั้นได้บอกกับผู้ตายว่าอย่าส่งเสียง ตนแค่เข้ามาเอาทรัพย์สินเท่านั้น แต่ผู้ตายฮึดสู้ จึงเกิดยื้อยุดกันอยู่พักนึง ก่อนที่ผู้ตายจะร้องขอความช่วยเหลือ จึงพยายามเอามือปิดปาก จนถูกผู้ตายกัดที่ฝ่ามือ และนิ้ว จากนั้นได้เหวี่ยงตัวผู้ตายลงพื้น ก่อนจะใช้ท่อนแขนรัดคอของผู้ตาย โดยลากกลับขึ้นมาบนเตียง จนผู้ตายแน่นิ่ง
เมื่อแน่ใจแล้วว่าผู้ตายเสียชีวิต นายสุวัฒน์อ้างว่า ขณะที่กำลังหลบหนี ได้เหลือบไปเห็นกล่องถุงยางอนามัยเปล่า จึงอ้างว่าจะสร้างสถานการณ์ให้เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องคนร้ายเข้ามาข่มขืนผู้ตาย ไม่ใช่เข้ามาชิงทรัพย์ ก่อนจะหลบหนีไป โดยได้นำรถของผู้ตายขับออกไปด้วย กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
สำหรับทรัพย์สินที่ได้เป็นแหวนทองคำ หลังเกิดเหตุได้นำไปขายที่ร้านทอง ได้เงินมา 3,000 บาท อ้างว่าจ่ายค่าแท็กซี่ที่จ้างให้ไปส่งระหว่างหลบหนี 700 บาท ส่วนต่างหูไม่สามารถขายได้
ภายหลังจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ เพื่อนำตัวกลับมาสอบปากคำต่อที่ สภ.บ่อผุด ปรากฏว่า บรรดาญาติ และเพื่อนร่วมงาน ที่มารอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีความโกรธแค้นผู้ต้องหาได้กรูกันวิ่งเข้าไปหาผู้ต้องหา โดยเฉพาะพ่อของผู้ตาย ที่วิ่งไปพยายามจะเข้าไปให้ถึงตัว แต่ถูกตำรวจกันเอาไว้ จนพ่อของผู้ตายได้กระโดดเกาะกระโปรงรถคันที่คุมตัวผู้ต้องหา และไม่ยอมให้รถเคลื่อนออกไป ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาช่วยเจรจา ขอให้ยอมปล่อย
#ฆ่าชิงทรัพย์
#พยาบาลเกาะสมุย