การขยายผลคดีแก็งคอลเซนเตอร์ พบเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ให้การสนับสนุน โดยเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำผิดและสามารถขยายผลเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีกหลายราย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากผลปฏิบัติการจับกุมผู้กระทําประกอบด้วยผู้จัดการธนาคารและพนักงานรวม 4 คน และผู้เกี่ยวข้องอีก 2 คน รวม 6 คน นอกจากนี้ยังจับกลุ่มผู้ต้องหาที่คอยอํานวยความสะดวกให้กับผู้ต้องหาชาวจีนอีก 5 ราย รวมจับกุมทั้งสิ้น 11 ราย
สำหรับพฤติกรรมนั้นพบว่าชาวจีนจำนวน 15 ราย จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวในห้วงเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งทั้งหมดเดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรก
จากนั้นจะมีกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ให้การสนับสนุนโดยพากลุ่มคนจีนทั้ง 15 ราย ไปติดต่อธนาคารทั่วประเทศเพื่อขอเปิดบัญชี โดยเฉพาะธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี
ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 15 ราย ทยอยเดินทางเข้าไปเปิดบัญชีตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมาก่อนจะเดินทางกลับไปยังประเทศจีนในวันที่ 13 มี.ค. โดยมีผู้จัดการธนาคารและพนักงานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเพื่อให้เปิดบัญชีได้ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว โดยได้ส่วนแบ่งจากการเปิดบัญชี
จากการสืบสวนพบว่าบัญชีทั้ง 15 บัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนมีเงินเข้ามาจํานวน 118 ล้านบาท ถอนออกไปแล้วจํานวน 91 ล้าน ที่เหลือสามารถอายัดเอาไว้ได้ โดยทั้ง 15 บัญชีมีผู้เสียหาย 106 คดี ขยายผลต่อเนื่องพบเกี่ยวข้องกับ 462 บัญชี ซึ่งทั้ง 462 บัญชีมีผู้เสียหาย 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายทั่วประเทศตอนนี้ 2,200 ล้านบาท
สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ประสานไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยกับชาวต่างชาติที่เข้ามาเปิดบัญชีธนาคารด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวว่ามีช่องโหว่หรือไม่เนื่องจากทุกประเทศทั่วโลกไม่มีใครทํา
#แก็งคอลเซนเตอร์