สหรัฐฯเตือนเสถียรภาพรัฐบาลซีเรียอาจสั่นคลอน หลังเกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหม่

          จากเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของซีเรีย กับ ชนกลุ่มน้อยชาวอะลาไวต์ในพื้นที่ชายฝั่งทางภาคตะวันตกของซีเรีย ฐานเสียงสำคัญอีกกลุ่มหนึ่งของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดเมื่อเดือนมี.ค.68 มีชาวบ้านเสียชีวิต 900 ราย หลายฝ่าย รวมทั้งสหรัฐฯ แสดงความกังวลเรื่องเสถียรภาพของประธานาธิบดีอาเหม็ด อัล-ชารา ผู้นำรัฐบาลเฉพาะกาลของซีเรีย นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้านวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐฯเมื่อวานนี้(20 พ.ค.68) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยประคับประคองรัฐบาลของนายชาราให้บริหารประเทศไปได้อย่างต่อเนื่อง แสดงความกังวลว่า เสถียรภาพของรัฐบาลของนายชาราของซีเรียอาจจะสั่นคลอนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าเหตุปะทะรอบใหม่ ระหว่างฝ่ายต่อต้านกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของซีเรีย บานปลายจนกระทั่งเป็นสงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง

          นอกจากนั้น นายรูบิโอ ได้ปกป้องการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรีย ระหว่างการเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งๆที่นายชารา อดีตแกนนำฝ่ายต่อต้านกลุ่ม HTS ที่ประสบความสำเร็จในการโค่นโล้มรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด ผู้นำคนก่อน เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เคยเป็นอดีตสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งนายรูบิโอ ชี้แจงว่า เหตุผลในการยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย คือ นายทรัมป์เห็นว่า ประเทศอื่นๆในภูมิภาคตะวันออกกลางอยากจะเข้ามาช่วยประคับประคองให้รัฐบาลของนายชารา บริหารประเทศอย่างมีเสถียรภาพ พร้อมทั้งต้องการจะจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยซีเรีย แต่อีกด้านหนึ่ง ประเทศเหล่านั้นรู้สึกหวั่นเกรงจะละเมิดมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ทำให้ไม่สามารถให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ซีเรียอย่างเต็มที่

          ที่ผ่านมา สหรัฐฯคว่ำบาตรซีเรียมาตลอดช่วง 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 หวังกดดันให้รัฐบาลชุดก่อนของซีเรีย ยุติการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงและประชาชนที่เห็นต่าง มีผู้เสียชีวิตกว่า 600,000 รายและชาวบ้าน 12 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยจากสงครามกลางเมืองในประเทศ

 

 

#สหรัฐ

#สถานการณ์ซีเรีย

#สงครามกลางเมือง

ที่มา: bbc