นายทอม เฟลตเชอร์ รองเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ฝ่ายกิจการด้านมนุษยธรรมและผู้ประสานงานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของสำนักงานประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม (OCHA) ให้สัมภาษณ์กับ แอนนา ฟอสเตอร์ ทางรายการ Today Programme ของสถานีวิทยุ BBC 4 ในวันนี้(20 พ.ค.) แสดงความเป็นกังวลเรื่องวิกฤตด้านมนุษยธรรมในเขตฉนวนกาซาว่า เด็ก 14,000 รายเสี่ยงเสียชีวิตในช่วง 48 ชั่วโมงข้างหน้า ถ้าพวกเขาไม่ได้การช่วยเหลือด้านอาหารเพิ่มเติมจากองค์กรการกุศลระหว่างประเทศ
เมื่อพิธีกร ถามเรื่องตัวเลขนี้ว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร นายเฟลตเชอร์ตอบว่า เป็นตัวเลขจากการประเมินสถานการณ์โดยทีมงานของ UN ที่ทำงานอยู่ในเขตฉนวนกาซาในขณะนี้ เพิ่มเติมว่า มีรถบรรทุก 5 คันขนสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังเขตฉนวนกาซาเมื่อวานนี้(19 พ.ค.) หลังอิสราเอลประกาศยุติการปิดล้อมเขตฉนวนกาซามาแล้ว 11 สัปดาห์ แต่สิ่งของบรรเทาทุกข์ดังกล่าวมีปริมาณน้อย กระจายไม่ทั่วถึงชุมชนจำนวนมากในเขตฉนวนกาซา พร้อมหวังว่าจะมีรถบรรทุกราว 100 คันแล่นเข้าไปยังเขตฉนวนกาซาในวันนี้(20 พ.ค.) ย้ำว่า ชาวบ้านในเขตฉนวนกาซายังต้องการความช่วยเหลืออีกมากในด้านสิ่งของบรรเทาทุกข์
ส่วนเรื่องแถลงการณ์ร่วมจากอังกฤษ ฝรั่งเศสและแคนาดา ที่เรียกร้องให้อิสราเอล ปรับเปลี่ยนแนวทางการทำสงครามในเขตฉนวนกาซาในขณะนี้ มิฉะนั้น ทั้งสามประเทศจะร่วมกันคว่ำบาตรอิสราเอล นายเฟลตเชอร์ชื่นชมว่า เป็นมาตรการที่ถูกต้อง แต่ย้ำว่า บททดสอบที่แท้จริงจะอยู่ที่ UN สามารถจะจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เพิ่มเติมเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในเขตฉนวนกาซา หรือไม่ พร้อมขอให้ทั่วโลกร่วมกดดันอิสราเอลให้ยอมเปิดด่านชายแดนให้องค์กรการกุศลส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังเขตฉนวนกาซาให้มากขึ้น
ส่วนสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ สำนักข่าวอัลจาซีราห์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 73 รายจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลยังค่ายอพยพในหลายท้องที่ของเขตฉนวนกาซา ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันจันทร์(19 พ.ค.) 22 รายเสียชีวิต ในค่ายอพยพเมืองกาซา ที่เหลือเสียชีวิตจากการโจมตีค่ายอพยในเมืองข่านยูนิส ทางภาคใต้ของเขตฉนวนกาซา
#UN
#เตือนวิกฤตมนุษยธรรม
#ทารกเสี่ยงเสียชีวิต