การดำเนินคดีนอมินีกับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในกิจการร่วมค้า ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง.ที่พังถล่มลงมา พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึง การติดตามตัวผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายบินลิง วู นายทุนชาวจีน ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ในความผิดฐานเป็นนอมินีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 36 โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว เร่งดำเนินการติดตามจับกุมตัวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อให้ทำการจับกุมตัวทันที หากนายบินลิง วู มีการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร ทั้งนี้ ยังไม่ปรากฏข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศของนายบินลิง วู แต่อย่างใด
สำหรับกรณีการสอบสวนพยานวิศวกรภายใต้กิจการร่วมค้า PKW จำนวน 40 ราย ที่มีรายชื่อและลายเซ็นปรากฏในเอกสารควบคุมงานตึก สตง. พบว่า มี 8 ราย ยอมรับว่า เซ็นจริง และ 30 ราย ให้การว่าถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการคัดแยกถ้อยคำให้การ เพื่อนำเข้าสำนวนคดีนอมินีและสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
โดยในขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนกำลังเร่งสรุปสำนวนการสอบสวน โดยอยู่ระหว่างการจัดทำร่างรายงานการสอบสวน 2 ส่วน คือ ส่วนที่ใช้แจ้งข้อกล่าวหา และส่วนสำหรับผู้ต้องหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งหากผู้ต้องหามีการส่งเอกสารชี้แจงเข้ามา พนักงานสอบสวนจะนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อสั่งคดีตามพยานหลักฐาน
โฆษก DSI ระบุว่า ในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนอย่างเป็นทางการ หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจากใกล้ครบกำหนดฝากขังผัดแรกสำหรับผู้ต้องหา 4 รายแรก ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย กรรมการคนไทย 3 ราย ได้แก่ นายประจวบ ศิริเขตร นายมานัส ศรีอนันท์ และนายโสภณ มีชัย รวมถึงนายชวนหลิง จาง กรรมการชาวจีนของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ซึ่งล่าสุด ยังไม่ได้รับรายงานว่าผู้ต้องหาได้ส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา
#สตงถล่ม
#เรียลเวย์นับเบอร์10