สหราชอาณาจักรเร่งกระชับความสัมพันธ์การค้า-กลาโหมกับEU หลังถอนตัวในปี 62

          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของสหราชอาณาจักรเตรียมทำข้อตกลงกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น เช่น ความร่วมมือในด้านการค้าและกลาโหม ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศต่างๆในทวีปยุโรปโดยรวม

          นายสตาร์เมอร์ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ร่วมกับกลุ่มอียูต่อไป เชื่อว่า ประโยชน์จากความร่วมมือต่างๆระหว่างสหราชอาณาจักรกับกลุ่มอียูจะมีมากกว่าผลเสีย ตามข้อวิจารณ์จากนายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรค Reform UK ที่มองว่า การทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสหราชอาณาจักร ภายใต้การนำของของนายสตาร์เมอร์กับกลุ่มอียูสะท้อนว่า รัฐบาลของนายสตาร์ไม่เคารพผลประชามติเบร็กซิตของประชาชนในสหราชอาณาจักรในปี 2559

          แต่นายสตาร์เมอร์ มองเรื่องนี้ว่า โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากนับตั้งแต่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากกลุ่มอียู โดยเฉพาะประเด็นที่สหราชอาณาจักรจะต้องปรับความสัมพันธ์กับกลุ่มอียูให้แน่นแฟ้นอีกครั้งคือ ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง ซึ่งจะช่วยเปิดทางให้บริษัทผลิตอาวุธของสหราชอาณาจักรสามารถจะเข้าร่วมโครงการพัฒนาอาวุธรวมมูลค่า 150,000 ล้านยูโรสำหรับยุโรป

          นอกจากนั้น สหราชอาณาจักรมองว่า มีความจำเป็นต้องปรับนโยบายครั้งใหญ่ หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเข้ามาบริหารประเทศสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ม.ค.พร้อมทั้งประกาศมาตรการตอบโต้ทางภาษีศุลกากร กระทบกติกาการค้าของทั่วโลก และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรป หลังรัสเซียบุกยูเครนในปี 25 ทำให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรต้องกลับมาทบทวนความสัมพันธ์กับกลุ่มอียูในด้านการค้า ด้านกลาโหมและความมั่นคงของยุโรปอีกครั้ง

#สหราชอาณาจักร

#จัดประชุมอียูซัมมิต

#กระชับสัมพันธ์กลาโหม

ที่มา: รอยเตอร์