การท่าเรือแห่งประเทศไทย ฉลองครบรอบ 74 ปี เผย กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 7,648 ล้านบาท ตั้งเป้าบริหารจัดการพื้นที่ท่าเรือ ด้วยแนวคิด 3 Smart มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ควบคู่การพัฒนาเมือง-เทคโนโลยี-คุณภาพชีวิตประชาชน สร้างอนาคตที่ยั่งยืน ยืนยัน ไม่ย้ายท่าเรือคลองเตย-ชุมชน นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ครบรอบ 74 ปี โดยมี คณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม กรรมการ กทท. ผู้บริหารและพนักงาน กทท. ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้ใช้บริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้นำชุมชน ผู้เช่าพื้นที่ ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ณ อาคาร PAT Arena
นางมนพร ระบุว่า ตลอดระยะเวลา 74 ปีที่ผ่านมา กทท.ได้พัฒนาท่าเรือในกำกับดูแลทั้ง 5 ท่า เพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย สอดคล้องกับนโยบาย "คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย" ที่มุ่งผลักดันให้ ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมในภูมิภาค
ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม กทท.ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับชุมชนโดยรอบท่าเรืออย่างยั่งยืน โดยไม่มีนโยบายการย้ายชุมชน การย้ายท่าเรือคลองเตย หรือ ท่าเรือกรุงเทพฯ ออกไป แต่ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนชุมชน ตามแนวทาง ESG ดังนั้น บทบาทของ กทท.จึงไม่เพียงแค่การบริหาร จัดการท่าเรือเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค เชื่อมโยงไทยกับเศรษฐกิจโลก
ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เปิดเผยว่า พิธีวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 74 ปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘PORTrait of the future : Sailing to a Greener Tomorrow’ สะท้อนภาพท่าเรือในอนาคต ที่มีศักยภาพเทียบเท่าท่าเรือระดับโลก ทั้งยังสามารถอยู่คู่กับสังคมเมือง ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาองค์กร ทั้งในด้านโลจิสติกส์เมือง ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ผ่านหลัก ‘3 Smart’ หรือ 3S ประกอบด้วย
- Smart Port มุ่งยกระดับการให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เป็นมิตรกับสิงแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ทันสมัย
- Smart Commercial การพัฒนาพื้นที่หลังท่า เพื่อรองรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพิ่มศักยภาพด้านการลงทุนยกระดับพื้นที่ให้เป็นย่านเศรษฐกิจใหม่ใจกลางเมือง
- Smart Community พัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวสูงสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี มีมาตรฐาน และสร้างความสุขให้คนในชุมชนเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาท่าเรือ
ผู้อำนวยการ กทท. ยังเปิดผลประกอบการ ในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมีรายได้สูงสุดรวม 17,224 ล้านบาท ถือเป็น New Record ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน โดยในปีงบประมาณ 2565 มีกำไรสุทธิ 6,276 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2566 มีกำไรสุทธิ 6,666 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2567 มีกำไรสุทธิ 7,648 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้ง
สำหรับผลประกอบการ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-มีนาคม 2568) มีกำไรสุทธิ 3,500 ล้านบาท โดยมีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง รวม 7,371 เที่ยว เพิ่มขึ้น 1.95% สินค้าผ่านท่า 61.68 ล้านต้น เพิ่มขึ้น 5.10% และตู้สินค้าผ่านท่า 5.56 ล้านทีอียู. เพิ่มขึ้น 5.35%
ด้านท่าเรือระนองมีสินค้านำเข้า-ส่งออกเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ เนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงกับประเทศเมียนมา ส่งผลให้ปริมาณเรือ ตู้สินค้า และสินค้า ผ่านท่าเรือเพิ่มสูงขึ้น โดยผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปิงบประมาณ 2568 ตุลาคม 2567-มีนาคม 2568) มีเรือเทียบท่าทั้งสิ้น 131 เที่ยว เพิ่มขึ้น 49% ตู้สินค้าผ่านท่า 3,170 ตู้ เพิ่มขึ้น 371% สินค้าผ่านท่า 79,810 ตัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ส่วนความคืบหน้า โครงการสัตว์ส่งออกมีชีวิต ของท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรในพื้นที่ มีผลการดำเนินการ ส่งออกสัตว์ (สุกร) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบฯ อยู่ที่ 1,964 ตัว ส่งผลให้มีผลประกอบการในภาพรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนั้น กทท.ยังมีโครงการ ที่ต้องเดินหน้าอีกหลายโครงการประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มีความคืบหน้า ณ เดือนพฤษภาคม 2568 ในส่วนที่ 1 งานก่อสร้างงานทางทะเลอยู่ที่ 68.30% ส่วนที่ 2งานก่อสร้างอาคาร ท่าเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค กทท.ได้ส่งมอบพื้นที่และออกหนังสืออนุญาตเริ่มงานก่อสร้าง (NTP) เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงาน ส่วนที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟ และส่วนที่ 4 งานจัดหาและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ขนย้ายสินค้าอยู่ระหว่างจัดทำ ร่างขอบเขตของงาน (TOR) และว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทบทวนเอกสารประกวดราคา ซึ่งการดำเนินงานทั้ง 4 ส่วนงาน ต้องสอดคล้องต่อเนื่องกัน
สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ได้พิจารณาตามผลการศึกษาแผนแม่บทของ สนข. โดยในจังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากมีความชัดเจนในตำแหน่งที่ตั้ง และประชาชนในพื้นที่ก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุนเพิ่มเติมที่เหมาะสม ที่จะนำมาพัฒนาโครงการในหลายพื้นที่ ทั้ง จังหวัดนครราชสีมาและนครสวรรค์ ทั้งหมดอยู่ระหว่างการวางแผนศึกษา เพื่อขยายโครงการในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีแผนการศึกษาการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในพื้นที่แนวเส้นทางรถไฟ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สถานีภาชี) และจังหวัดราชบุรี (สถานีหนองปลาดุก)
ผู้อำนวยการ กทท.ย้ำว่า กทท.ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ความสามารถของเยาวชน สร้างการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน อาทิ การเปิดหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านม ร่วมกับมูลนิธิกาญจนบารมี การมอบทุนการศึกษา สนับสนุนด้านการแข่งขันกีฬาและดนตรี ฯลฯ ด้านสิ่งแวดล้อม กทท.แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน เพื่อก้าวสู่ท่าเรือสีเขียวผ่านยุทธศาสตร์ 2D-Digialization และ Decarbonization เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)
ในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 74 ปี นอกจากมีพิธีสงฆ์แล้ว ยังมีการมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศล รวมทั้งสิ้น 1,834,482 บาท ให้แก่ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ วัดคลองเตย์ใน ฯลฯ พร้อมมอบรางวัลให้แก่พนักงาน เพื่อแทนคำขอบคุณ และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงาน ประกอบด้วย รางวัลพนักงานดีเด่น รางวัล วิเชียรมณีฉาย และรางวัลสำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานครบ 15 ปี 25 ปี และ 35 ปี
#74ปีการท่าเรือ
#ไม่ย้ายคลองเตย