*เหตุกราดยิงในสหรัฐ เพิ่มขึ้น นักวิจัยเปรียบเทียบเหมือนโรคติดต่อ*

วารสารวิทยาศาสตร์รายสัปดาห์ "พลอส วัน" เผยแพร่ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา ที่วิเคราะห์สถิติและข้อมูลประกอบเกี่ยวกับเหตุกราดยิงในสหรัฐ ที่รวมถึงคดีกราดยิงภายในสถานศึกษา ระหว่างปี 2541-2556 ว่าอัตราเฉลี่ยของการเกิดเหตุกราดยิงในสถานที่ซึ่งไม่ใช่สถานศึกษามี "ระดับความถี่" อยู่ที่ทุก 13 วัน ขณะที่แนวโน้มของการเกิดเหตุกราดยิงภายในสถานศึกษาอยู่ที่เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งทีมนักวิจัยเปรียบเทียบสถิติที่ออกมา ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถี่ยิบราวกับ "โรคติดต่อ"

ข้อมูลจากผลงานวิจัยชิ้นนี้พบด้วยว่า รัฐใดก็ตามของสหรัฐที่มีกฎหมายควบคุมการถือครองอาวุธปืนอย่างเข้มงวด มีแนวโน้มการเกิดเหตุกราดยิงหรือสังหารหมู่น้อยว่ารัฐที่อนุญาตให้ประชาชนสามารถครอบครองปืนได้อย่างเสรี ขณะที่ปัจจัยอื่นเกี่ยวข้องด้านอื่น รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวผู้ก่อเหตุ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต และแนวทางการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนในเรื่องดังกล่าว ที่อาจทำให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ โดยสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของสหรัฐมักไม่ค่อยนำเสนอรายงานเกี่ยวกับเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 4 ศพ

ศ.แจ็ค เลวิน นักอาชญาวิทยาจากมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญซึ่งร่วมทำผลงานวิจัยชิ้นนี้ กล่าวว่า แม้สหรัฐเป็นประเทศที่หาซื้ออาวุธปืนได้ง่าย โดยเฉพาะปืนพกกึ่งอัตโนมัติ แต่ทุกฝ่ายไม่ควรโยนความผิดให้แก่ "ความสะดวก" ที่่ว่านี้ทั้งหมด เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศตะวันตกที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนที่สูงเช่นกัน การปฏิรูปกลไกทางสังคมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นถือเป็นสิ่งสำคัญในการบรรเทาความถี่ของการเกิดอาชญากรรมที่มักมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของคนร้าย