การระดมเงินผ่านโทเคนของรัฐบาล ศ.ดร.อาณัติ ลีมัคเดช ผู้อำนวยการโครงการปริญญาโททางการเงิน และอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ตามข้อมูลที่รัฐบาลให้มาคือ จี-โทเคนถูกสำรองหรือแบ็กอัพหรือ ABS โดยเงินบาท โดยจะนำร่องด้วยงบประมาณ 5,000 ล้านบาท นั่นหมายความว่า จะต้องมีเงินบาทจำนวน 5,000 ล้านบาทหนุนหลังเอาไว้ ซึ่งตามหลักการที่ควรจะเป็นก็ที่จะต้องมีหน่วยงานกลาง คือ บริษัทที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหน้าที่เป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (Custodian) ที่รับฝากเงินบาทเหล่านั้นไว้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าตราบใดที่ประชาชนยังถือจี-โทเคนอยู่จะยังคงมีเงินบาทในสัดส่วนที่เท่ากันเป็นหลักประกันอยู่เสมอ
ประเด็น คือ รัฐบาลยังไม่เคยพูดถึงเรื่อง Custodian เลย ทั้งที่เป็นสิ่งสำคัญที่การันตีว่า เงินของประชาชนจะมีความมั่นคงปลอดภัย มากไปกว่านั้นก็คือ ตามเจตจำนงของรัฐบาล คือ ต้องการนำเงินจี-โทเคน ไปใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือไปลงทุนภาครัฐในมิติอื่น ๆ นั่นสะท้อนว่า จะไม่มีการสำรองเงินหรือแบ็กอัพจี-โทเคน ด้วยเงินบาทหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ยังเป็นคำถามและต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมจากรัฐบาล
นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวต่อไปว่า การที่รัฐบาลระบุว่า จะนำจี-โทเคนเข้าไปอยู่ในลิสต์ของศูนย์ Exchange นั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า รัฐบาลทำแบบนั้นด้วยเหตุผลใด ส่วนตัวมองไม่ออกว่าจี-โทเคนจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร เพราะนี่เป็นการนำเงินไปฝากเพื่อให้รัฐบาลนำเงินไปลงทุนต่างๆ ฉะนั้นสิ่งที่ประชาชนหรือผู้ถือครองจี-โทเคนได้รับในกรณีที่ถือครองครบเวลากำหนด อาจเป็นเพียงกำไรจากดอกเบี้ย 1 – 2 % เท่านั้น
หากยึดตามรายละเอียดที่ระบุไว้ใน พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 การที่รัฐบาลออกจี-โทเคนในลักษณะเช่นนี้ จะถือว่าเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) เพราะเป็นโทเคนดิจิทัลที่ให้สิทธิในการร่วมลงทุนในโครงการและได้รับผลตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะดำเนินการได้อย่างถูกต้องก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจะต้องนำเสนอผ่านผู้ให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ (ICO Portal) เสียก่อน
ทว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นรายละเอียดเหล่านี้จากรัฐบาล แต่กลับมีการทำโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์ออกไปมากมายว่าเป็นเหรียญที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต.ตรงนี้รัฐบาลต้องให้ข้อมูลเพิ่ม
#โทเคน