หมอใหญ่ รพ.ตำรวจ ขอความเป็นธรรม ชี้ แพทยสภาวินิจฉัยข้อมูลไม่ครบถ้วน ปมทักษิณ นอนชั้น 14

วันนี้, 07:11น.


          นายเนติธร หลินตะกูล ทนายความ ผู้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กับ ว่าที่นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข จากกรณีที่ประชุมแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ คดีจริยธรรมที่เกี่ยวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีแพทย์ 1 คน ถูกว่ากล่าวตักเตือน ส่วนแพทย์อีก 2 คน ถูกพักใช้ใบอนุญาต เนื่องจากพบให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริง



         ว่าที่นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า ดังนั้น การพิจารณาว่าผู้ป่วยวิกฤตหรือไม่ในช่วงเวลานั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ผู้ป่วยอาจอาการดีขึ้นตามลำดับ จึงมองว่าไม่ได้เป็นการพิจารณาจากข้อมูลการวินิจฉัยในช่วงนั้นทั้งหมด จึงมาขอความเป็นธรรม ส่งเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ให้ รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษฯ นำไปประกอบการพิจารณา



          อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ รมว.สาธารณสุข ก็ยังไม่ได้รับหนังสือจากทางแพทยสภา แต่ถ้าได้รับวันไหนก็จะมีกรอบเวลาดำเนินการภายใน 15 วัน ตนก็จะเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาช่วยพิจารณาข้อมูลต่างๆ แต่เป็นคณะทำงานที่ไม่ได้ตั้งขึ้นตามระเบียบกฎหมาย เป็นการตั้งขึ้นมาส่วนตัว รมว.สาธารณสุข เท่านั้น คาดว่าจะได้เห็นรายชื่อคณะทำงานเร็วๆ นี้



          ในหนังสือร้องขอความเป็นธรรมได้ชี้แจงถึงกรณีที่อุปนายกแพทยสภาท่านหนึ่งแจ้งไว้ในเรื่องของข้อมูลไม่เชิงประจักษ์ ช่วงเวลาที่มีการรักษา มีการวินิจฉัยตามเวชระเบียนที่มีอยู่ว่ามีภาวะช่วงนั้นเป็นช่วงที่วิกฤตหรือไม่วิกฤต แต่กลับไม่ได้นำข้อมูลการวินิจฉัยในช่วงนั้นมาบอกทั้งหมด จึงนำข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่มีการวินิจฉัยโรคมายื่นขอความเป็นธรรม ต่อสภานายกพิเศษ โดยนำข้อมูลในเชิงประจักษ์มาให้รัฐมนตรี เพื่อประกอบการพิจารณาว่าไม่ได้ทำอะไรเกินกรอบ



          พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า เรื่องของระเบียบกรมราชทัณฑ์ เป็นกฎหมายที่เพิ่งออกมาใหม่ ทั้งนี้การพิจารณากฎหมายใหม่ ต้องดูกฎหมายเก่าประกอบด้วย และมั่นใจว่ากระทรวงยุติธรรมได้ทำตามกฎหมาย และก็ทำเช่นนี้มาโดยตลอด ทั้งนี้ กรณีผู้ต้องขังป่วยโรคเฉพาะทาง ต้องใช้หลักที่ว่า หากเป็นโรคที่สถานพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ไม่มีศักยภาพในการรักษา ก็จะส่งไปรักษาโรงพยาบาลภายนอก ซึ่งในระหว่างที่ส่งไปรักษาตัวนั้น โรงพยาบาลดังกล่าวยังถือเป็นที่คุมขัง สถานที่หนึ่ง คือควบคุมดูแลไม่ให้หลบหนี หรือไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน



          น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ่อเตรียมที่จะชี้แจง ซึ่งเป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง นายทักษิณ อายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอกและเกี่ยวเนื่องกันมา ที่ไม่เรื้อรังก็มี ซึ่งในทางการแพทย์ประวัติการรักษาชี้แจงได้อยู่แล้ว และในวันที่ 13 มิ.ย.นี้นายทักษิณ จะไปขึ้นศาล ตามกระบวนการ



#ร้องแพทยสภา

ข่าวทั้งหมด

X