กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานในวันอังคาร(13พ.ค.) ดัชนีราคาผู้บรืโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือนเมษายน ถือเป็นการดีดตัวขึ้นในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบ 4 ปี กระตุ้นให้บรรดาบริษัทชั้นนำในวอลล์สตรีทอย่างเช่นเจพีมอร์แกน เชสและบาร์เคลย์ส ปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจอเมริกาถดถอยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
ตัวเลขเงินเฟ้อที่เบาบางลงมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับเสียงตอบรับด้วยความโล่งใจจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ซึ่งคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาตั้งแต่ปรับลดดอกเบี้ยหนสุดท้ายในเดือนธันวาคม ทั้งนี้เฟดระงับปรับลดดอกเบี้ยท่ามกลางความกังวลว่าสงครามการค้าอาจจุดชนวนเงินเฟ้อ
ปัจจัยดังกล่าวเพิ่มมุมมองในแง่บวกแก่นักลงทุน หลังจากมีความคึกคักอยู่ก่อนแล้วจากคำแถลงระงับรีดภาษีระหว่างอเมริกากับจีน ดาวโจนส์ ลดลง 269.76 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,140.43 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 42.36 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,886.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 301.74 จุด (1.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,010.08 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำในวันอังคาร(13พ.ค.) ปิดบวก ได้แรงหนุนจากการช้อนซื้อของนักลงทุน หลังจากมีแรงเทขายอย่างหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 19.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6 % ปิดที่ 3,247.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์