*รอบวัน:คลังเตรียมเสนอชื่อผู้ว่าธปท.คนใหม่/หอการค้าเสนอออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่ม*

+++ลุ้นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 7 กรกฎาคม หรืออย่างช้า 14 กรกฎาคม จะเสนอชื่อผู้ว่าการธปท. คนใหม่ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเลือกเพียงรายชื่อเดียว ซึ่งมีโอกาสทั้ง 2 คน ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการ ธปท.ที่มีนายสมพล เกียรติไพบูลย์ เป็นประธาน เสนอมาคือนายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร และนายวิรไท สันติประภพ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)  นายสมหมาย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่หากผู้ได้รับเลือกจะเป็นผู้ที่มีความอาวุโสน้อย มองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำหรับเสียงวิจารณ์ที่แคนดิเดตเป็นคนนอกทั้ง 2 คนนั้น เป็นสิ่งที่คณะกรรมการคัดเลือกมา ผมมีหน้าที่ ดูในขั้นสุดท้ายก่อนเสนอ ครม.เท่านั้น

+++นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.วิตกกังวลปัญหาเศรษฐกิจจีนและเอเชียมากกว่าปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซและยุโรป เนื่องจากไทยส่งออกไปประเทศจีนมากกว่ากลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และหากเศรษฐกิจจีนโตน้อยกว่าคาดไว้ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างมีนัยสำคัญ  ธปท.มองว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้เกือบร้อยละ 7 แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าจะเติบโตเกินร้อยละ 6 เล็กน้อย หากไอเอ็มเอฟคาดการณ์ถูก การ ส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบมาก และหลายเดือนส่งออกติดลบอยู่

+++ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า มีโอกาสจะเห็นการลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกร้อยละ 0.25 ในช่วงไตรมาส 3 นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะโตได้ร้อยละ 3 แม้ในครึ่งปีแรกชะลอตัวจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำส่งผลกระทบต่อรายได้ของครัวเรือนและภาคธุรกิจ แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง จะปรับตัวดีขึ้น จากการเร่งรัดการเบิกจ่าย งบประมาณภาครัฐ โดยเฉพาะการกระจายการลงทุนโครงการขนาดเล็กไปยังต่างจังหวัดจะได้ผลมากกว่าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลดีต่อการส่งออกและดอกเบี้ยระดับต่ำจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

+++ อย่างไรก็ตาม หากปัญหาภัยแล้งรุนแรง การเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า และปัญหายืดเยื้อการหยุดเดินเรือของเรือประมงในขณะนี้ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 3 แต่ถ้าเร่งการเบิกจ่ายมากกว่า ร้อยละ80 จะทำให้จีดีพีโตมากกว่าร้อยละ 3 นอกจากนี้ ได้ปรับลดตัวเลขการส่งออกจากเดิมที่คาดว่าติดลบร้อยละ 1.3  เป็นร้อยละ 1.5 เพราะราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำกดดันการส่งออก และตัวเลข 5 เดือนการส่งออกติดลบร้อยละ 4.2 ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับ ตัวหาตลาดใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ที่ตัวเลขการส่งออกยังเติบโตถึง ร้อยละ7

+++ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. 2558 อยู่ระดับ 74.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน และติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ จึงต้องการให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลหามาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นแพ็กเกจ พร้อม ๆ กับการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะโครงการที่ลงสู่ชนบท เพื่อสร้างรายได้และสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคมากขึ้น เรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายยังไม่มีสัญญาณการเบิกจ่ายในต่างจังหวัดมากนัก ดังนั้นทีมเศรษฐกิจควรออกแพ็กเกจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อให้กลับมาให้ทันภายใน ไตรมาส 3 เพื่อสร้างความเชื่อมั่น  โดยแพ็ก เกจกระตุ้นเศรษฐกิจอาจเป็นรูปแบบการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร การใช้งบประมาณเม็ดเงินที่มีอยู่เพื่อโครงการขนาดเล็ก เช่น การจ้างงานทาสีปรับปรุงสถานที่ราชการ ส่วนการแจกเงินในรูปแบบต่าง ๆ เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่น่าจะนำมาใช้

+++สถานการณ์ของกรีช ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยน้อยมาก เนื่องจากกรีซเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่จะต้องรอการหารือของกลุ่มยูโรโซนในวันที่ 5 ก.ค. นี้ก่อนว่าจะพิจารณาให้กรีซอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไปหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า โอกาสที่กรีซจะอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไปมีถึงร้อยละ 60 แต่หากกรีซถูกตัดออกจากกลุ่มยูโรโซนจริง ซึ่งโอกาสเกิดไม่มากน่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น แต่จะไม่กระทบต่อภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม หากวิกฤติดังกล่าวเกิดขึ้นยืดเยื้อและลุกลามไปยังกลุ่มประเทศยูโรโซน ก็จะส่งผล กระทบต่อการส่งออกไทยติดลบมากกว่าร้อยละ 2

+++สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) เปิดมาตรการเยียวยาชาวไร่อ้อยจากวิกฤตภัยแล้ง โดยเฉพาะการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย

+++นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คนไข้ชายชาวโอมานวัย 75 ปี ที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร มีผลตรวจเป็นเนกาทีฟ 5 ครั้งสภาพร่างกายมีการฟื้นตัวขึ้น และในวันที่ 3 ก.ค.  จะมีการแถลงปิดเคสผู้ป่วยโรคเมอร์สในไทย แต่ยังต้องมีการรับมือป้องกันในส่วนของผู้ที่จะเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยตลอด

+++ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ชื่อ “ซัคเซสเกมส์” ในซอยเพชรเกษม 110 แยก 10 เวลาประมาณ 20.07 น.เมื่อคืนนี้ จับภาพขณะกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธนบุรี กำลังพูดคุยกันหน้าร้านเกม แล้วถูกคนร้ายปาระเบิดปิงปองเข้าใส่รวม 3 ลูก แรงระเบิดทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 คน ขณะที่กระจกหน้าร้าน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุตำรวจ สน.หนองค้างพลู พร้อมหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐาน พบระเบิดดังกล่าว มีลักษณะเป็นระเบิดปิงปอง ทำจากดินเทาหรือดินดำ ข้างในเป็นก้อนหิน จุดระเบิดด้วยการตกกระทบ มีรัศมีทำลายล้างประมาณ 5 เมตร หากโดนระเบิดตรงๆ อาจทำให้เสียชีวิตได้ มีรายงานว่า ร้านเกมแห่งนี้มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มทะเลาะกันจากเรื่องแย่งผู้หญิง เหตุครั้งนี้อาจมีที่มาจากเรื่องดังกล่าว ขณะที่ ตำรวจ สน.หนองค้างพลู อยู่ระหว่างติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่