ตำรวจฯ ไทย-อินเดีย ร่วมปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบหลอกลวงลงทุนสูงสุด

วันนี้, 13:10น.


          พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า จากมาตรการกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา สามารถควบคุมตัวผู้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ถึง 7,514 คน จาก 36 ประเทศ โดยเป็นชาวจีน 5,414 คน รองลงมาคืออินโดนีเซีย 653 คน และอินเดีย 587 คน และจากจำนวนผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมด 8,988 คน ยังเหลืออีก 1,474 คน ที่อยู่ระหว่างรอการส่งกลับ



          โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เดินทางหารือกับสำนักงานตำรวจข่าวกรอง และศูนย์ประสานงานอาชญากรรมไซเบอร์แห่งชาติอินเดีย ทราบว่า อินเดียมีสถิติการรับแจ้งความคดีคอลเซ็นเตอร์เฉลี่ยสูงถึงวันละประมาณ 7,000 คดี ขณะที่ประเทศไทยมีประมาณ 800 คดีต่อวัน คดีที่พบบ่อยที่สุดในทั้งสองประเทศคือการหลอกให้ลงทุน มูลค่าความเสียหายรวมเฉพาะที่เกิดกับพลเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ตามข้อมูลอินเดีย) ในปี 2567 สูงถึงประมาณ 43,000 ล้านบาท ส่วนประเทศไทยมีความเสียหายเฉลี่ยปีละประมาณ 30,000 ล้านบาท



          ชาวอินเดียที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มักถูกหลอกผ่านเพจรับสมัครงานปลอม โดยอ้างว่าจะจ้างมาทำงานในประเทศไทยพร้อมออกค่าเดินทางให้ เมื่อถึงไทยจะถูกลักลอบพาข้ามแดนไปยังเมียวดี หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา หรือถูกพาจากสนามบินไปข้ามแดนทำงานในกัมพูชา หรือ สปป.ลาว ซึ่งจะถูกบังคับให้หลอกลวงคนในประเทศอินเดียด้วยกันเอง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ในอนาคตตำรวจไทยและอินเดียจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและจริงจังในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป



...



#ร่วมปราบคอลเซ็นเตอร์



#ข่าวกรองอินเดีย

ข่าวทั้งหมด

X