วันนี้เจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ กองพลที่2 ทหารม้ารักษาพระองค์ กองพันทหารสื่อสารที่12 รักษาพระองค์ ลงตรวจรถตู้โดยสารสาธารณะที่ให้บริการแก่ประชาชน ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลราชวิถี นายนิมิตร์ โกสมุทร์ เจ้าพนักงานขนส่ง ชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การมาลงตรวจรถตู้ ที่หน้าโรงพยาบาลราชวิถีในวันนี้ เป็นการลงตรวจที่ทำเป็นประจำ เพื่อกวดขันผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และอำนวยความสะดวกให้กับรถพยาบาลรวมถึงผู้ใช้บริการโรงพยาบาล ให้สามารถเข้า-ออกได้อย่างสะดวกโดยในขณะที่ทำการตรวจอยู่นี้เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน จึงมีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้มงวดในการรับผู้โดยสารของผู้ให้บริการรถตู้ เพื่อป้องกันการรับผู้โดยสารเกินจำนวนที่กรมการขนส่งฯกำหนด สำหรับรถตู้ที่ให้บริการในกรุงเทพฯนั้น จะจำกัดจำนวนอยู่ที่ 14 ที่นั่ง และมีระบบตรวจสอบความเร็วที่เรียกว่า RFID แต่อาจจะมีการเปลี่ยนไปใช้ จีพีเอส ในอนาคต แต่ด้วยข้อจำกัดทางค่าใช้จ่าย จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ โดยรถตู้โดยสารที่สามารถมาขับให้บริการได้ต้องมีอายุไม่เกิน10ปี หลังจากวันที่จดทะเบียน
การตรวจรถตู้ในครั้งนี้จะเป็นการตรวจซึ่งทำเป็นประจำ คือ ภาษีรถ การแต่งกายของคนขับ และเจ้าหน้าที่ของคิวรถตู้ในด้านมารยาท ว่าพูดคุยกับผู้โดยสารหรือไม่ โดยที่การตรวจอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในตัวรถเช่น เข็มขัดนิรภัย ,ถังดังเพลิง ,ค้อนทุบกระจก ,ส่วนการตรวจภายนอก จะดูสภาพรถ ,ใบแสดงการต่อภาษีที่ติดอยู่กระจกด้านหน้าตัวรถ ,ส่วนตัวผู้ขับขี่จะตรวจดูว่า มีใบขับขี่สาธารณะ ,สมุดประจำรถ ที่แสดงรายละเอียดการใช้รถหรือไม่
อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ตรวจในวันนี้ ไม่พบรถที่กระทำความผิด เนื่องจากผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะรับทราบข้อกำหนด และจะเตรียมสภาพรถ และตัวผู้ขับขี่ให้พร้อมก่อนออกให้บริการอยู่แล้ว ขณะที่สภาพการจราจรบริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นไปด้วยความหนาแน่น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนกำลังเลิกงานและเดินทางกลับบ้าน ประกอบกับสภาพอากาศที่มืดครึ้มเนื่องจากฝนกำลังจะตก จึงทำให้การบริการค่อนข้างที่จะล่าช้า
ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร