หลังอินเดียยิงขีปนาวุธโจมตีจุดต่างๆ 9 แห่งในปากีสถานและแคว้นแคชเมียร์ที่อยู่ในความควบคุมของปากีสถานเมื่อเช้ามืดของวันนี้(7 พ.ค.) อ้างว่าเป็นที่หลบซ่อนของผู้ก่อการร้าย และเพื่อตอบโต้กรณีกลุ่มติดอาวุธของปากีสถานบุกสังหารพลเรือนในเมืองปาฮาลกัม รัฐจัมมูและแคชเมียร์ ซึ่งอยู่ในความควบคุมของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย.มีผู้เสียชีวิต 26 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งนายโมฮัมหมัด อิชาค ดาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน แถลงเรื่องผู้เสียชีวิตในปากีสถานว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 8 รายและมีผู้บาดเจ็บอีก 35 คน นอกจากนี้ ปากีสถานประกาศจะตอบโต้อินเดียในช่วงเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป
ขณะที่ผู้นำโลก เช่น นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชีค อับดุลลาห์ บิน ซายิด บิน สุลต่าน อัล นาห์ยาน รองนายกรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่รับผิดชอบเรื่องกิจการต่างประเทศ แสดงความเป็นกังวลเรื่องสถานการณ์ในเอเชียใต้ โดยนายกูเตอร์เรส แสดงความเป็นกังวลกรณีอินเดียใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีปากีสถาน รุกล้ำเส้นแบ่งเขตหยุดยิง (Line of Control)และชายแดนติดต่อกับปากีสถาน ด้านประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ วิจารณ์การที่อินเดียส่งเครื่องบินรบโจมตีปากีสถานว่า เป็นการกระทำที่น่าละอาย พร้อมทั้งขอให้อินเดียยุติการโจมตีปากีสถานโดยทันที
ด้านนายรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯซึ่งต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับที่ปรึกษาแห่งชาติของอินเดียและปากีสถาน ขอให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันผ่านระบบติดต่อสื่อสารสายด่วนและเลี่ยงยกระดับรุนแรงให้มากกว่านี้ ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่า สหรัฐฯจะติดตามสถานการณ์ในเอเชียใต้อย่างใกล้ชิด
ด้านกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า เซย์เยด อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน จะเดินทางมายังกรุงนิวเดลีในวันนี้(7 พ.ค.)เพื่อพบปะกับประธานาธิบดีเทราปที มุรมู และนายเอส. ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย หวังช่วยไกล่เกลี่ยยุติปัญหาพิพาทระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ก่อนหน้านี้ นายอารักชี ไปยังกรุงอิสลามาบัด ปากีสถานเมื่อต้นสัปดาห์นี้ พบกับพลเอก ไซเยด อาซิม มูนีร์ ผู้บัญชาการทหารบกและนายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน เพื่อหารือเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคี ความร่วมมือการค้าและการคุมเข้มการดูแลชายแดนระหว่างเพื่อนบ้านทั้งสอง
#ผู้นำโลกกังวล
#สถานการณ์เอเชียใต้