สภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีจัดประชุมในวันนี้(5 พ.ค.) เพื่อให้ที่ประชุมสภาฯรับรองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคที่ชนะการเลือกตั้งในเดือนก.พ.เข้ามาบริหารประเทศต่อจากนายโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำคนก่อน ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นางยูเลีย โคลคเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี แถลงผลการลงมติของสภาว่า การประชุมลงมติเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีรอบแรกในวันนี้ นายฟรีดริช แมร์ซ วัย 69 ปี ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU)/พรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ในฐานะผู้ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนก.พ. มีจำนวนสส. ที่โหวตสนับสนุนรวม 310 เสียง ขาดอีก 6 เสียงจะมีจำนวนสส.ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำคือ 316 เสียง ทำให้ไม่ผ่านการรับรองเป็นนายกรัฐมนตรี สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์การเมืองส่วนใหญ่ที่คาดว่า ที่ประชุมสภาจะลงมติให้นายแมร์ซเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างราบรื่น
ขณะเดียวกัน พรรค CDU/CSU และพรรค SPD อยู่ระหว่างหารือแนวทางต่อไป ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญของเยอรมนีกำหนดให้สภาฯมีเวลา 14 วันในการรับรองแคนดิเดตคนใหม่ หรือจะเสนอชื่อคนเดิมให้ที่ประชุมโหวตซ้ำก็ทำได้ แต่ในกรณีที่นายแมร์ซ หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไม่อาจจะรวบรวมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ให้ที่ประชุมสภา รับรองได้ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ รัฐธรรมนูญกำหนดว่า ให้ประธานาธิบดี มีอำนาจแต่งตั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคที่ชนะเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หรือจะประกาศยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็ได้
ทั้งนี้ นายแมร์ซ ผู้นำพรรค CDU/CSU ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนก.พ.คว้าที่นั่งสส.มากที่สุด คือ 208 เสียง บรรลุข้อตกลงเมื่อวานนี้(4 พ.ค.)จะจับมือจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรค SPD พรรคอันดับที่ 3 ซึ่งมีสส.120 เสียง ทำให้ 2 พรรคนี้มีเสียงสส.รวม 328 เสียง เพียงพอที่จะเสนอให้ที่ประชุมสภารับรองให้นายแมร์ซเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่การที่นายแมร์ซมีคะแนนเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ สะท้อนถึงปัญหาแตกแยกในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและปัญหาท้าทายในการจับมือกับพรรค SPD เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศ
#เยอรมนี
#ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
#ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี