ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้โพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ Truth Social เมื่อวานนี้(4 พ.ค.)ว่า เขามีคำสั่งให้ผู้บริหารสำนักงานเรือนจำกลาง(BOP) ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม, สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) และกระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐฯ ร่วมดำเนินการปรับปรุงและขยายพื้นที่เรือนจำเก่าบนเกาะอัลคาทราซ (Alcatraz) ในแถบอ่าวซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังถูกสั่งปิดเมื่อ 62 ปีก่อน(2506) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงกกว่าเรือนจำอื่นๆเกือบ 3 เท่า
นายทรัมป์ระบุว่า การเปิดใช้เรือนจำนี้อีกครั้ง เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการรักษากฏหมาย ความสงบเรียบร้อยและความยุติธรรมของสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับอาชญากรรมรุนแรงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงใช้กักขังผู้อพยพต่างชาติที่ทำผิดความทางอาญาร้ายแรงในสหรัฐฯ ระหว่างรอการไต่สวนจากศาล ก่อนถูกเนรเทศไปต่างแดน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ BOP ระบุว่า เรือนจำอัลคาทราซอยู่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เปิดใช้งานมาเกือบ 30 ปี ก่อนถูกปิดในปี 2506 ตามนโยบายประหยัดค่าใช้จ่ายของรัฐ พร้อมคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 3-5 ล้านดอลลาร์ในการปรับปรุงเรือนจำนี้เพื่อให้มีระบบสาธารณูปโภคเหมาะสมสำหรับการเปิดใช้งานอีกครั้ง
ในปัจจุบัน สำนักอุทยานแห่งชาติสหรัฐฯ (National Park Service) เป็นผู้ดูแลเรือนจำเก่าแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติสหรัฐฯในปี 2529 มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมราว 1.2 ล้านคนต่อปี แต่สำนักอุทยานแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่า รัฐมนตรีความมั่นคงภายใน มีอำนาจเพิกถอนการขึ้นทะเบียนแหล่งท่องเที่ยวและส่งมอบพื้นที่เรือนจำเก่าให้กับกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารของรัฐบาลทรัมป์
สำหรับ คุกดังกล่าวถูกเรียกอีกชื่อว่า “เดอะร็อกซ์ (หินโหด)” มีชื่อเสียงโด่งดังจากความยากลำบากหากนักโทษต้องการหลบหนี เพราะถูกล้อมรอบไปด้วยคลื่นมหาสมุทรรุนแรงและอุณหภูมิน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เยือกเย็น อีกทั้ง อาชญกรที่มีชื่อเสียงอย่างอัล ตาโปน และจอร์จ “แมชชีน กัน” เคลลี่ ยังถูกกุมขังอยู่ที่นี่ด้วย
อย่างไรก็ดี นางแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมาเน้นย้ำผ่านเอ็กซ์ว่า คุกอัลคาทราซได้กลายเป็นสวนสาธารณะประจำชาติที่โด่งดังและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหญ่ ข้อเสนอของท่านประธานาธิบดีนั้นไม่ได้เป็นเรื่องจริงจัง
#รัฐบาลทรัมป์
#รื้อฟื้นเรือนจำเก่า