พบร่างผู้สูญหายอีก 10 ราย สตง.ถล่ม ดีเอสไอ – กิจการร่วมค้า เปิดหลักฐาน 121 ลัง

         การรื้อซากและค้นหาผู้ติดค้าง อาคารสตง.ถล่ม  เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อเนื่อง ไม่หยุด ทั้งเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร และทีม K9 นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ พบผู้เสียชีวิตรวม 10 ร่าง จากโซนดี ซึ่งปัญหาในช่วงนี้ คือการสกัดแผ่นซีเมนต์ คาน และเสาขนาดใหญ่ในโซน A ที่หักล้มขวางทางอยู่ รถแบคโฮขนาดใหญ่ จากบริษัทปิยะมิตร กรุ๊ป ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เนื่องจาก ความสูงของซากอาคาร ไม่เหมาะสมกับขนาดรถแล้ว จึงต้องปรับใช้รถขนาดเล็ก และจะนำรถขุดเจาะเข้ามาเพิ่ม

          ขณะที่เพจกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า "วันนี้วันแรงงานแห่งชาติ ได้พาพี่ ๆ น้อง ๆ กลับบ้าน เหลืออีก 12 คนก็จะค้นหาครบแล้ว วันนี้ถือว่า breakthrough หรือทะลุครั้งยิ่งใหญ่เลยพบ 10 ร่าง ผมเสียใจนะ แต่ก็ยังดีที่ได้เจอพวกเขาในวันแรงงาน"

ล่าสุดเวลา 18.00 น. ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันอัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 74 คน และอยู่ระหว่างการติดตาม 20 คน

          ด้านกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง เชิญผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) , ผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW , ผู้แทนบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเอกสารในตู้ ร่วมกันเปิดเอกสารหลักฐานจำนวน 121 ลัง ที่อายัดมาจาก 26 ตู้คอนเทนเนอร์จากไซต์งานการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. แห่งใหม่ที่ถล่ม เพื่อใช้ในการรวบรวมประกอบสำนวนคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเปิดเอกสารให้ครบ 121 ลัง นานกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งจากการคัดแยก พบว่าเอกสารทั้งหมดเป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์และเป็นที่ต้องการ

          พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ ฮั้วประมูล เปิดเผยว่า ส่วนการเรียกสอบปากคำวิศวกร 8 คน เบื้องต้น วิศวกรทั้ง 8 คนเดินทางมาครบ โดยการสอบปากคำทั้งหมดตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้พบว่า มีการสอบปากคำไปแล้วทั้งหมด 25 คนจาก 40 คน

          และในวันนี้ (2 พ.ค.) จะเป็นการสอบปากคำวันสุดท้าย ก็ยังเรียกวิศวกรมาอีก 10 คน ประเด็นการสอบ ยังเน้นที่การเข้าไปควบคุมการทำงาน หรือมีการถูกปลอมลายเซ็นหรือไม่ หลังจากสอบมา 3 วัน พบวิศวกรที่มีรายชื่อส่วนใหญ่ ระบุว่าถูกปลอมลายมือชื่อควบคุมงาน มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าไปควบคุมงานจริงในพื้นที่