หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯแถลงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวร้อยละ 0.3 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเติบโตร้อยละ 2.4 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 หลายฝ่ายหวั่นวิตกว่า สหรัฐฯอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในปีนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกล่าวต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารบริษัทเอกชนอเมริกันที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อบ่ายวานนี้(30 เม.ย.)ว่า รัฐบาลทรัม์เพิ่งเข้ามารับไม้ต่อจากรัฐบาลชุดก่อน(อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน)เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ขอให้รัฐบาลทรัมป์มีเวลาอีกสักเล็กน้อยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง
นายทรัมป์ กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจจะทำให้สาธารณชนในสหรัฐฯเข้าใจผิดในเรื่องภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งยังมีพื้นฐานที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ปฏิเสธกระแสวิจารณ์ว่า มาตรการทางภาษีของรัฐบาลทรัมป์ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว โดยนายทรัมป์ระบุว่า บริษัทอเมริกันส่วนใหญ่กักตุนสินค้านำเข้าล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนรัฐบาลทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้เมื่อต้นเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม บริษัทต่างชาติให้คำมั่นจะเข้ามาลงทุนในสหรัฐฯรวม 8 ล้านล้านดอลลาร์ในด้านเทคโนโลยี สาธารณสุขและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของสหรัฐฯ ซึ่งนายทรัมป์เชื่อว่า จะช่วยฟื้นฟูความเข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯในระยะยาว พร้อมให้คำมั่นจะเสนอให้สภาคองเกรสพิจารณาปรับลดภาษีสำหรับเอกชนที่ลงทุนในสหรัฐฯ
ด้านนายฮาคีม เจฟฟรีส์ แกนนำพรรคเดโมแครต พรรคฝ่ายค้านของสหรัฐฯโต้แย้งคำวิจารณ์ของนายทรัมป์ที่พูดพิงรัฐบาลชุดก่อนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ภาพสะท้อนผลงานจากรัฐบาลไบเดน แต่เกิดขึ้นในยุคที่รัฐบาลทรัมป์บริหารประเทศสมัยที่ 2 มาสักระยะหนึ่งแล้ว เป็นผลงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งสาธารณชนในสหรัฐฯต่างทราบกันดีอยู่แล้ว
#ทรัมป์
#เศรษฐกิจสหรัฐ