*เรือประมงยังขึ้นทะเบียนได้/ศปมผ.ปช.หาทางออก/ข้าวคุณภาพดีใส่ถุงขาย/ตรวจบ้านไม่ได้คุณภาพ

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น

+++หลังรัฐบาลประกาศเอาจริงกับปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยขีดเส้นตายในวันที่ 1 ก.ค. หลังผ่อนผันมานาน 60 วัน ส่งผลให้เรือประมงจำนวนมากทยอยกลับเข้าฝั่งตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.แล้วนั้น  ส่งผลกระทบต่อการค้าขายสัตว์น้ำ โดยที่ตลาดสดมหาราช จ.กระบี่  ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสัตว์น้ำทะเลใหญ่ที่สุดของกระบี่ พบว่าแผงจำหน่ายอาหารทะเล มีการจำหน่ายปลาทะเลลดลงอย่างเห็นได้ชัด บางแผงหยุดบริการ เนื่องจากไม่มีปลามาจำหน่าย ขณะที่บางแผงมีปลาแต่ใกล้หมดและราคาสูง อาทิ ปลาทูขนาด 4 ตัว ต่อ กก.ราคาอยู่ที่ 180 บาท ปรับขึ้นมาอีก กก.ละ 30 บาท

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงการบังคับใช้กฎหมายประมงใหม่ว่า ยังไม่ได้รับรายงานความไม่เรียบร้อยแต่อย่างใด สื่อมวลชนต้องช่วยดูด้วยว่าสิ่งที่ทำนั้นทำตามข้อกฎหมายหรือไม่ ถ้าไปเขียนว่า มันเดือดร้อน ไม่มีสินค้าประมงบริโภควันนี้ดีกว่าไม่มีวันข้างหน้า มูลค่าธุรกิจเหล่านี้เกิดขึ้นมาตั้ง 2 แสนกว่าล้าน ถ้าหายไปทั้งหมดจะทำอย่างไร รัฐบาลก็จะดูแลในทุกมิติ ผู้ประกอบการก็ต้องร่วมมือด้วย จะให้ผ่อนผันไปถึงเมื่อไหร่ ถ้าไม่ผ่านประเมินจะรับผิดชอบด้วยกันหรือไม่

+++พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร.ในฐานะ ผบ.ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอยู่ในกรอบของ ศปมผ.ซึ่งเราพยายามอะลุ่มอล่วยที่สุดแล้ว เรือประมงที่ผิดกฎหมายไม่มีอาชญาบัตร มีปัญหามาตั้งแต่ปี 2539 จึงต้องแก้ไข และดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนเรือประมงที่จอดประท้วงจนอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคนั้น ก็ไม่เป็นไร จะต้องหยุดไปเพราะเขาไม่พร้อม

+++นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า กรณีเรือประมงเรียกร้องให้ผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมายออกไป 2 เดือน ว่า รัฐคงไปผ่อนผันอะไรให้ไม่ได้ ขอร้องให้เรือประมงทุกลำมาดำเนินการขอใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ที่ศูนย์จดทะเบียนเคลื่อนที่ หรือ จุดวันสต๊อป เซอร์วิส ที่มีอยู่ 8 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะให้บริการถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ และหลังจากนั้นยังสามารถไปขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จนถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ โดยเรือประมง 1 ลำ จะต้องมีใบอนุญาตรวม 3 ใบ คือ 1.ทะเบียนเรือ จากกรมเจ้าท่า 2.ใบอนุญาตการทำประมง หรืออาชญาบัตรจากกรมประมง และ 3.เอกสารการจ้างงานและการใช้แรงงานบนเรืออย่างถูกกฎหมาย

+++นายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มีเรือประมงมาขึ้นทะเบียนเรือกับกรมเจ้าท่าแล้ว 42,051 ลำ แต่ยังมีเรือที่มาขอใบอนุญาตการจับสัตว์น้ำเพียง 24,954 ลำเท่านั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีเรือประมงหยุดเดินเรือพร้อมกันทั่วประเทศ ว่ากำลังเฝ้าดูสถานการณ์ เพราะเรือที่ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีอาชญาบัตรถือว่าผิดกฎหมายจะออกเรือไม่ได้ โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ใน 22 จังหวัดชายทะเลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนปัญหาที่นายจ้างยืมตัวแรงงานประมงระหว่างเรือเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะถูกดำเนินคดี จึงมีการเรียกร้องขอให้ผ่อนผัน กระทรวงแรงงานกำลังศึกษาเพื่อแก้ไขให้นายจ้างสามารถยืมตัวแรงงานระหว่างเรือได้ ส่วนของแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ ได้ครบกำหนดขอรับบัตรใหม่ผ่อนผันให้ทำงานไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. และต้องรอรับการพิสูจน์สัญชาติภายในวันที่ 31 มี.ค.59 มีแรงงานมาขอรับบัตรใหม่ 1.2 ล้านคน จากยอดจดทะเบียน 1.6 ล้านคน ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ

+++ส่วนบ่ายโมงวันนี้ ศปมผ. .จะเชิญหน่วยงานและตัวแทนชาวประมงร่วมหาทางออก ขณะที่หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง จะแถลงถึงผลกระทบต่อภาคธุรกิจหลังมีการหยุดออกเรือ

+++ปัญหาข้าวเสื่อมคุณภาพ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เร่งรัดในการแก้ปัญหาสต็อกข้าวจากโครงการรับจำนำในสมัยรัฐบาล นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติขยายระยะเวลาเก็บข้าวในสต็อกของรัฐบาล ให้สอดคล้อง กับแผนการระบายข้าวจากสต็อกของรัฐบาล ซึ่งเดิมกำหนดว่าจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 ก.ย.2558 ออกไปอีก1ปีโดยให้สิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.2559  โดยคาดว่าการขยายระยะเวลาตามมติ นบข.จะสามารถระบายข้าวในสต็อกของรัฐที่ยังคงเหลืออยู่ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2558 ประมาณ 15.46 ล้านตันได้หมด สามารถปิดบัญชีโครงการและรู้ค่าใช้จ่ายตลอดจนผลการขาดทุนในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ทั้งหมดกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอแนวทางให้ นบข.พิจารณาการระบายข้าว โดยใช้วิธีการประมูลแบ่งเป็นข้าว 3 ประเภทตามคุณภาพของข้าว ได้แก่ .ข้าวประเภทที่สามารถนำมาใช้บริโภคได้ แบ่งเป็น ข้าวเกรดเอและเกรดบี รวมทั้งข้าวคุณภาพดีมากที่ไม่ต้องปรับปรุงคุณภาพ ซึ่งมีอยู่ในสต็อกของรัฐบาลประมาณ 9.57 ล้านตัน จะใช้วิธีการประมูลให้กับภาคเอกชนเพื่อนำไปทำข้าวถุงจำหน่ายหรือส่งออก 2.ข้าวที่เสื่อมคุณภาพไม่สามารถนำมาทำข้าวสำหรับบริโภคได้ หรือข้าวประเภทซี ที่มีอยู่ประมาณ 4.6 ล้านตันจะมีการเปิดประมูลให้กับภาคอุตสาหกรรมไปใช้ในการทำเชื้อเพลิงเอทานอล และ 3.ข้าวที่มีคุณภาพต่ำมาก หรือมีข้าวที่มีความเสียหายมากจนไม่สามารถนำไปทำเชื้อเพลิงเอทานอลได้ ประมาณ 1.2  ล้านตัน ซึ่งข้าวจำนวนนี้จะมีการเปิดประมูลให้กับภาคอุตสาหกรรมนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง เช่น นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล

++++ที่ประชุมฯได้มีการแต่งตั้งนายนิพนธ์พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)เป็นผู้ศึกษาแนวทางการระบายข้าว สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด  โดยปัจจุบันภาระงบประมาณในการเก็บรักษาข้าวกว่าวันละ 46 ล้านบาท จากค่าเช่าโกดัง ค่าเสื่อม ค่าปรับปรุงคุณภาพและค่าดอกเบี้ย ยืนยันว่าการประมูลข้าวในรัฐบาลนี้ รัฐมนตรีคนนี้ และปลัดคนนี้จะไม่มีการฮั้วแน่นอน

+++นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)กล่าวว่า แนวทางการระบายข้าวให้กับภาคอุตสาหกรรม คงเป็นการประมูลยกคลัง โดยเฉพาะข้าวในเกรดซีหรือเกรดต่ำกว่า เพราะเป็นไปได้ยากที่จะมีการคัดแยกคุณภาพข้าวออกมา ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการตรวจสอบเพราะเมื่อมีการประมูลข้าวคุณภาพต่ำแล้ว อาจจะมีเอกชนบางรายที่ทุจริต ด้วยการพยายามนำข้าวไปบรรจุขายหรือส่งออกเพื่อจำหน่ายในราคาแพง ซึ่งจะกระทบกับความน่าเชื่อถือของข้าวไทยได้หากมีการเล็ดลอดออกไป     

++++เงินเฟ้อเดือน มิ.ย.ลดลงร้อยละ 1.07  ติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน ฉุดตัวเลขครึ่งปียังลบอยู่ร้อยละ  0.81       นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเงินเฟ้อที่ติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน ในส่วนตัวมองว่ายังไม่ใช่สัญญาณเงินฝืด เพราะหากเป็นภาวะเงินฝืด คือประชาชนไม่อยากบริโภคสินค้า ทั้งๆ ที่มีความต้องการบริโภค เพราะคาดว่าราคาสินค้าจะปรับตัวลดลงอีก แต่ปัจจุบันยังมีการบริโภคอยู่ เพียงแต่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น “สิ่งที่กังวลขณะนี้คือสถานการณ์ภัยแล้ง และภาวะเศรษฐกิจโลก     นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เงินเฟ้อที่ติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน ยังไม่เข้าข่ายเงินฝืดในเชิงนโยบายที่ต้องกังวล แต่เป็นสัญญาณเงินฝืดในเชิง

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้เชิญผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่กว่า 10 ราย เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) บมจ.สหพัฒนพิบูล บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กลุ่มเซ็นทรัล เป็นต้น มาหารือแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยจะมีการนำสินค้าที่แต่ละบริษัทผลิตได้จำนวนกว่า 20 รายการ มาลดราคาจากปกติ 10-40% เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมาย 34 จังหวัด

สินค้าที่จะนำมาลดราคาจำหน่าย เช่น ไข่ไก่ น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา นมผง สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก เป็นต้น โดยจะนำไปขายผ่านร้านค้าของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ซึ่งเป็นร้านค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่มีอยู่จำนวน 250 แห่ง  คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.2558 นี้ มีระยะดำเนินการ 6 เดือน.

+++ปัญหาบ้านไม่ได้คุณภาพ วันนี้ คณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สอบและรับฟังปัญหาจากผู้อยู่อาศัยโครงการพฤกษาวิลล์ 42 เทอดไท-กัลปพฤกษ์ ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก วสท. นำทีมลงพื้นที่ตรวจ ภาวะทรุดในโครงการบ้านกลางกรุง เดอะ รอยัลเวียนนา รัชวิภา

+++ดาราม่า โลกโซเชียล . ผู้บริหารธนาคาร ไทยพาณิชย์ เข้าพบนายพินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อหารือแก้ปัญหากรณีประกาศจำกัดการรับคนเข้าทำงานที่ต้องสำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษา 14 แห่ง