*ก.คมนาคม เผยภาพรวมโครงการรถไฟไทย-จีน แล้วเสร็จ 21ส.ค.ก่อนเสนอครม.*

01 กรกฎาคม 2558, 17:14น.


ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ขนาดรางมาตรฐาน ความกว้าง 1.435 เมตร ของไทยและจีน เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทางรวม 873 กิโลเมตร พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 5 ที่โรงแรมภูวนาลีรีสอร์ท เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ว่า ความก้าวหน้าในการสำรวจออกแบบ ในช่วงที่ 1 กรุงเทพ-แก่งคอย และช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา มีความคืบหน้าไปมาก ส่วนในเรื่องเส้นทางเดินรถ และการระบุพื้นที่ก่อสร้างสถานีที่ชัดเจน จะมีความชัดเจนภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้  ก่อนที่จะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกันอีกครั้งในการประชุมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่6 ที่มณฑลซีอาน ประเทศจีน ในวันที่ 6-8สิงหาคม ขณะที่การสำรวจการเวนคืนที่ดิน และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก็กำลังดำเนินการประเมินศึกษาอยู่ ซึ่งภาพรวมของโครงการจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่21สิงหาคม เพื่อที่จะนำเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้พิจารณารับทราบ ก่อนนำไปประเมินเพื่อหาแหล่งเงินกู้ต่อไป คาดว่า จะสามารถเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างได้ช่วง เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2558ปีนี้  



ส่วนการฝึกอบรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการก่อสร้างโครงการก็ได้ข้อสรุปร่วมกัน ในการแลกเปลี่ยน ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ และการปรับปรุงหลักสูตรในสถานศึกษาเพื่อที่จะได้เป็นศูนย์กลางการเดินรถของอาเซียนในอนาคต



ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ส่วนเรื่องการหาแหล่งเงินลงทุน สามารถกู้ได้จากหลายแหล่ง เช่น จากรัฐบาล หรือบริษัทร่วมทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงจีน ก็พร้อมให้ไทยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ขณะนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากต้องรอประเมินภาพรวมของโครงการหลังวันที่ 21สิงหาคมเสียก่อน จากนั้นก็ต้องนำแผนมาพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินหาแหล่งเงินต่อไป



นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า บางเรื่องในตอนนี้ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนร่วมกัน เช่น การตั้งศูนย์สั่งการเดินรถ (โอซีซี) ซึ่งไทยต้องการให้ตั้งอยู่ที่ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากสถานที่มีความพร้อม แต่จีน ต้องการให้ตั้งที่บางซื่อ โดยเรื่องนี้ ได้ชี้แจงให้จีนฟังว่า ในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะเกิดความแออัด แต่ถึงอย่างไร เรื่องนี้ก็ต้องนำมาพูดคุยกันอีกครั้งในการประชุมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งต่อไป คาดว่า จะมีความชัดเจนในภาพรวมมากขึ้น



ผู้สื่อข่าว : วิรวินท์ ศรีโหมด



 

ข่าวทั้งหมด

X