ระหว่างการตอบคำถามสื่อที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯพูดเป็นนัยถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายสงครามทางภาษีกับประเทศจีน หลังตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 สัปดาห์มานี้ โดยนายทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯพร้อมจะปรับลด ภาษีนำเข้าสินค้า จากจีนจากอัตราร้อยละ 145 ในปัจจุบัน ย้ำว่า ตนเองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อยากให้รัฐบาลจีนติดต่อขอเจรจากับสหรัฐฯ พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯว่า สหรัฐฯจะไม่เป็นฝ่ายติดต่อขอเจรจากับจีนก่อน
แต่นายทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะปรับลดภาษีนำเข้าให้กับจีนเมื่อใด และด้วยเงื่อนไขใดบ้าง ทั้งนี้ นายทรัมป์แสดงความเห็นเรื่องนี้ หลังจากนักข่าวสอบถามความเห็น กรณีนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวต่อเวทีประชุมนักลงทุนแห่งหนึ่ง ซึ่งจัดโดยธนาคาร เจพี มอร์แกนของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ว่า ผลพวงจากอัตราภาษีที่สูงมากในปัจจุบัน ทำให้การค้าจีน-สหรัฐฯแทบจะหยุดชะงักทั้งหมด ย้ำว่า ความตึงเครียดทางการค้าในลักษณะนี้ไม่อาจจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีวันจบสิ้น หวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหาพิพาททางการค้าโดยเร็ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า ในปัจจุบัน ประเทศจีนตอบโต้ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯร้อยละ 125 ห้ามนำเข้าภาพยนตร์ฮอลลีวูดจากสหรัฐฯ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของจีน พร้อมส่งคืนเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 2 ลำ ซึ่งบริษัทโบอิ้งจัดส่งให้กับสายการบินจีนตามคำสั่งซื้อเมื่อเร็วๆนี้
นอกจากนั้น จีนยังปฏิเสธที่จะติดต่อเจรจากับนายทรัมป์ เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาท แต่ประธานาธิบดีสีกลับเรียกร้องให้หุ้นส่วนทางการค้า อื่นๆร่วมมือกับจีน เพื่อต่อต้านนโยบายภาษีจากสหรัฐฯ แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับรัฐบาลจีนเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทางการจีนพร้อมจะเปิดกว้างเรื่องการเจรจากับสหรัฐฯ แต่จีนย้ำว่า การเจรจาใดๆจะต้องเคารพจุดยืน เรื่องผลประโยชน์แห่งชาติของจีน อีกทั้งขอให้รัฐบาลทรัมป์ เสนอนโยบายการค้าและภาษีที่คงเส้นคงวามากกว่านี้ และทำข้อตกลงที่เป็นผลดีแก่ทั้งสองฝ่าย
#รัฐบาลทรัมป์
#พร้อมลดภาษีให้จีน
#สงครามการค้า