นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่างวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานกิจการร่วมค้า PKW ประกอบด้วย บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว.และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัทเคพี คอนชัลแทนส์ จำกัด คู่สัญญาผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 คดีนอมินี บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมสอบถามข้อมูล
ด้านนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ยังคงยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ควบคุมงานและถูกปลอมลายเซ็น ส่วนเรื่องอื่นไม่ขอพูดว่าใคร เป็นมาอย่างไรมายืนยันเพียงว่าตนถูกนำชื่อไปแอบอ้าง เพราะตอนนี้ตกเป็นจำเลยสังคม บางเพจมาแซะตนด้วย อยากให้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วตนคือผู้เสียหาย ส่วนหลักฐานที่มอบให้ สน.วังทองหลาง ส่วนนี้จบแล้ว หลักฐานมีเพียงเท่านั้น เพราะเป็นการนั่งคุยกัน
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การขอข้อมูลจากนายสมเกียรติ จะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในคดีที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปก่อนหน้านี้คือ คดีนอมินี (คดีพิเศษที่ 32/2568) และสามารถเชื่อมโยงไปได้ทั้งหมด ทั้งการทำงานของบริษัทสัญชาติใดบ้าง ค่อนข้างเป็นประโยชน์ในภาพรวม ส่วนดีเอสไอต้องเชิญผู้แทนของกิจการร่วมค้า PKW มาสอบถามด้วยหรือไม่ ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การออกแบบจนสุดทางว่าเกี่ยวข้องส่วนใด เราจะทำเป็นองค์ภาพรวมว่า รายละเอียดมันเกิดขึ้นเพราะอะไรค้นหาความจริงแล้วกำหนดขั้นตอนต่อไป
ส่วนการตรวจสอบย้อนหลังว่า กิจการร่วมค้า PKW มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องการนำชื่อผู้คุมงาน ปลอมแปลงรายชื่อ ปลอมแปลงลายเซ็นกับโครงการอื่นอีกหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่มี