นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า จากนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ที่สร้างความผันผวนให้โลก สิ่งที่ต้องไทยตัองติดตามต่อในปีนี้ จะเป็นเรื่องของนโยบายต่างๆ ที่ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคส่งออก รวมถึงการฟื้นฟูภาคการผลิต และการลดภาระหนี้ จึงมีนโยบาย คือ ประเทศพันธมิตรที่พึ่งพาการคุ้มครองด้านความมั่นคงจากสหรัฐ และต้องการค้าขายกับสหรัฐต้องเข้ามาถือพันธบัตรรัฐบาล 100 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งหากนโยบายเป็นจริง จะยิ่งสร้างความผันผวนมากกว่านโยบายกำแพงภาษี
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ศูนย์วิจัยฯ ยังคงประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ร้อยละ 2.4 โดยได้รวมปัจจัยผลกระทบกรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าไทยเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อจีดีพีราว ติดลบร้อยละ 0.3 และหากกรณีไทยโดนภาษีนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 25 คาดว่าจะส่งผลต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น ติดลบร้อยละ 0.6 แต่ยังต้องติดตามนโยบายทรัมป์อีกครั้งภายในวันที่ 2 เมษายนนี้
ขณะที่ผลกระทบจากสงครามการค้าต่อภาคการส่งออกของไทย ประเมินว่าจะอยู่ที่ราวร้อยละ 0.8 ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นผลกระทบทางตรงจากคำสั่งซื้อที่ลดลงราว 900 ล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 0.3 ของการส่งออกทั้งหมด และผลทางอ้อมที่คาดว่าจะมีการขนาดใหญ่กว่า เพราะมีการส่งออกซัพพลายเชนทั้งหมดจะกระทบราวร้อยละ 0.8 จากมูลค่าส่งออกทั้งหมดปี 2568 ที่คาดว่า 3 แสนล้านดอลลาร์
...
#ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
#การส่งออก
#เศรษฐกิจ