(21 มี.ค.68) นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ร่วมจับกุมชาวกัมพูชาขณะลักลอบตัดไม้มะค่าโมงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา จ.ศรีสะเกษ ห่างจากชายแดนเพียง 1.5 กิโลเมตร ผลการจับกุมสามารถยึดทั้งไม้แปรรูป อาวุธปืน เลื่อยโซ่ยนต์ และอุปกรณ์ครบชุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ เพิ่มการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาการลักลอบตัดไม้มีค่า
โดยในการลาดระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2568 ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จาก 5 หน่วยงานหลัก รวมกำลังกว่า 56 นายได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองร้อยทหารพรานที่ 2609 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224 ตามที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา แจ้งว่า ได้รับข้อมูลจากเครือข่ายในพื้นที่ และเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม นายโจ ฯ อายุ 22 ปี ชาวกัมพูชา จากบ้านโตด ตำบลเวียงคะนาย อำเภอภูมิโตน จังหวัดกัมโปด ขณะกำลังตัดและแปรรูปไม้มะค่าโมงในป่าพนมพรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา พร้อมของกลางหลายรายการซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาวางแผนพักค้างในป่าเพื่อตัดไม้ให้ได้ปริมาณมาก
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหา 6 ข้อหา ได้แก่
1. ฐานเก็บหา นำออกไป หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพซึ่งไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และฐานเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 53 และ 55(5) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
2. ฐานทำไม้ในป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
3. ฐานทำไม้หวงห้าม แปรรูปไม้หวงห้าม และมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 11 และ 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
4. ฐานมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545
5. ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490
6. ฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทาง ด่านตรวจ เขตท่า สถานีที่ทางราชการกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต
เนื่องจากเหตุเกิดในป่าลึกตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีภูมิประเทศสูงชัน เป็นป่ารกทึบ อีกทั้งยังมีสนามทุ่นระเบิดและทหารกัมพูชาเคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เวลาในการนำตัวผู้กระทำผิดและของกลางออกมาดำเนินคดี โดยสามารถส่งตัวผู้ต้องหาให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ ได้ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 เวลา 22.00 น.
จากสถิติพบว่ามีการลักลอบตัดไม้พะยูงและไม้มีค่าอื่นๆ ในพื้นที่นี้มากกว่า 50 คดีในรอบสองปี สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศรวมมูลค่าหลายล้านบาท
การลาดตระเวนครั้งนี้ครอบคลุมระยะทางกว่า 30 กิโลเมตรตามแนวชายแดน ตั้งแต่ช่องโดนโป (พลาญตากผ้า) ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ไปจนถึงหน่วยพิทักษ์ป่าทะนำเจ็น เป็นตัวอย่างความสำเร็จของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงและการอนุรักษ์ ในการปกป้องทรัพยากรป่าไม้ชายแดนซึ่งเป็นสมบัติของชาติ
...
#กรมอุทยานฯ
#ลอบตัดไม้มีค่า
#เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา