บินฝนหลวงแก้วิกฤติภัยแล้ง

28 มิถุนายน 2558, 07:53น.


นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าในการสำรวจสภาพปัญหาภัยแล้ง และสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ที่มีระดับน้ำต่ำสุดในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ก่อสร้างเขื่อนมา โดยมีปริมาณน้ำเหลือเพียง 65 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ส่งผลให้มีน้ำใช้ได้อีก 40 วันเท่านั้น จึงต้องเร่งทำฝนหลวงให้ตกเหนือเขื่อนและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนและเพื่อทำการเกษตรมากที่สุด ซึ่งมีการออกปฏิบัติการทำฝนหลวงทุกวัน โดยระดมชุดปฏิบัติการจากฐานปฏิบัติการฝนหลวง จ.กาญจนบุรี จ.ลพบุรี และ จ.นครสวรรค์ รวม 4 ลำ ร่วมกับฐานปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยด่วน



ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยชี้แจงให้ประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ และไม่ขยายพื้นที่เพาะปลูก จนกว่าจะพ้นวิกฤติภัยแล้ง



ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า จากการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่กองบิน 2 จ.ลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนจนถึงปัจจุบันมีปฏิบัติการทำฝนหลวงไปแล้ว 65 วัน รวม 202 เที่ยวบิน มีฝนตกลงมา 58 วัน ซึ่งจากผลการดำเนินงานถึงแม้จะทำให้มีฝนกระจายในหลายพื้นที่ แต่ปริมาณฝนที่ได้รับก็ยังไม่ทั่วถึง และไม่เพียงพอต่อความต้องการของพื้นที่เพาะปลูก ทำให้ต้องเร่งรัดทำฝนหลวงช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนต่อไป



ส่วนนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าจะลดการปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ 4 แห่ง ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาลงเหลือ 28 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนkยนนี้เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็นน้ำเพื่อการเกษตร 15 ล้าน ลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ และผลักดันน้ำเค็ม 8 ล้านลบ.ม. และเพื่ออุปโภคบริโภค 5 ล้าน ลบ.ม. โดยจะคงอัตราการปล่อยในระดับนี้ไปอีก 15 วัน หากปริมาณฝนไหลเข้าเขื่อนยังอยู่ในระดับวิกฤติ กรมชลประทานจะประชุมทบทวนแผนระบายน้ำร่วมกับอีก 10 หน่วยงานเรื่องน้ำ เพื่อวิเคราะห์ทุกสภาพปัญหาและประเมินสถานการณ์การปล่อยน้ำอีกรอบ.

ข่าวทั้งหมด

X