*สธ. เอาจริงใครปล่อยข่าวลือติดเชื้อเมอร์สถูกลงโทษผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์*

27 มิถุนายน 2558, 13:31น.


ตามที่มีการปล่อยข่าวเรื่องผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเมอร์สในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งได้สร้างความสับสนตื่นตระหนกให้สังคมส่วนรวมและประเทศไทย นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีความผิดทางกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประสานผู้เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนแชร์ข้อมูลหรือนำเสนอข่าว ขอให้ติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเฟสบุ๊ค ไทยสู้เมอร์ส ของกระทรวงสาธารณสุข



ส่วนกรณีมีการจัดการแข่งขันนักกีฬามหาลัยโลก ได้มีการประสานงานใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกระทรวงสาธารณสุขให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพและป้องกันตัวเอง จัดทีมแพทย์ติดตามดูแลนักกีฬาตลอดการแข่งขัน ซึ่งสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาไม่ใช่พื้นที่มีการระบาดของโรค และยังไม่มีประเทศใดงดส่งนักกีฬา นอกจากนี้ได้เตรียมระบบติดตามเฝ้าระวังนักกีฬาเมื่อกลับประเทศไทย



ความคืบหน้าอาการชายชาวโอมานวัย 75 ปี ที่ติดเชื้อเมอร์สและรักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น รับประทานอาหารได้ โดยจำนวนผู้สัมผัสโรคที่อยู่ในประเทศไทยวันนี้มี 156 คน ผู้สัมผัสใกล้ชิด จำนวน 36 คน กระทรวงสาธารณสุขสามารถติดตามตัวได้ครบทุกคนแล้ว ทุกคนมีอาการปกติดี อยู่ในการเฝ้าระวังควบคุมโรคจนครบ 14 วัน ส่วนสถิติผู้เดินทางกลับจากประเทศตะวันออกกลางและเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางเข้ามาที่ประเทศไทย ที่อยู่ในเกณฑ์สอบสวนโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 26 มิถุนายน 2558  มีจำนวน 107 ราย มาจากเกาหลีใต้ 61 ราย จากตะวันออกกลาง 46 ราย สำหรับในวันที่ 26 มิถุนายน 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การตรวจสอบโรค รวม 12 ราย จากเกาหลีใต้ 6 ราย จากตะวันออกกลาง 6 ราย ทุกรายได้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ



ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูลล่าสุดพบผู้ป่วย 1,338 ราย เสียชีวิต 475 ศพ ประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูลวันที่ 26 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 181 ราย  เสียชีวิต 31 ศพ ทั้งนี้สำนักข่าวเอเอฟพีมีรายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้กฎหมายใหม่ เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์ส โดยเพิ่มความเข้มงวดของกฎการกักบริเวณผู้ป่วย และเพิ่มโทษจำคุกมากกว่า 2 ปี หรือปรับเป็นเงิน 20 ล้านวอน สำหรับผู้ที่โกหกต่อเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับการติดเชื้อ และปฏิเสธการเข้ารับการรักษา



ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข



CR:แฟ้มภาพ



ข่าวทั้งหมด

X