ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC) ร่วมกันผลักดันมาตรการจัดการบัญชีม้านิติบุคคล ตั้งแต่ขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล การติดตามพฤติกรรมและตรวจจับนิติบุคคลที่มีความเสี่ยง รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อขยายผลการสืบสวนสอบสวนและนำนิติบุคคลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องที่กระทำความผิดมาลงโทษ
นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพนำบัญชีนิติบุคคลไปใช้หลอกลวงประชาชน ธปท. กำหนดให้สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มข้นในการจัดการกับบัญชีนิติบุคคล ทั้งกรณีนิติบุคคลที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานของสำนักงาน ปปง. ที่สถาบันการเงินจะดำเนินการเข้มข้นเทียบเท่ากรณีบุคคลธรรมดาที่เข้าข่ายกระทำผิด และกรณีที่นิติบุคคลมีผู้เกี่ยวข้อง เช่น กรรมการ หรือหุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลสำนักงาน ปปง. โดยหากสถาบันการเงินประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นบัญชีม้า สถาบันการเงินจะดำเนินการระงับการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และไม่ให้เปิดบัญชีใหม่
ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 มีการระงับบัญชีม้า 3 สีไปแล้ว 140,000 คน หรือ 1,920,000 บัญชี โดยเป็นการระงับม้าดำ หรือบัญชีที่มีการกระทำผิดชัดเจนและมีข้อมูลจาก ปปง. จำนวน 70,000 คน หรือ 700,000 บัญชี
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวว่า ในระยะหลังพบว่า มิจฉาชีพมีแนวโน้มที่จะนำบัญชีนิติบุคคลมาก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายมากขึ้น จึงมีความร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงและกำหนดมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล รวมทั้ง ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อขยายผลการสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้
....
#บัญชีม้านิติบุคคล
#ธนาคารแห่งประเทศไทย