*เหตุก่อการร้าย3 ประเทศ สะท้อนการขยายอิทธิพลของกลุ่มไอเอส*

แหล่งข่าวคุ้นเคยหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แม้เหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นใน 3 จุดช่วงเวลาไล่เลี่ยกันทั้งในตูนิเซีย คูเวต และฝรั่งเศสจะยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง แต่มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ก่อเหตุได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)  ซึ่งเคยเรียกร้องสมาชิกให้ทำสงครามศักดิสิทธิ์ ญิฮัด หรือในช่วงครบรอบ 1 ปีการสถาปนารัฐอิสลามที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ในซีเรียและอิรักในวันจันทร์นี้ 

นายอดัม ชิฟ หนึ่งในคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่า กรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ความสามารถของกลุ่มไอเอสในการจูงใจสมาชิกลงมือก่อเหตุเป็นภัยคุกคามระดับโลก ขณะที่นายเอ็ด รอยซ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นการแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของกลุ่มไอเอสที่แผ่กว้างออกนอกอิรักและซีเรีย พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคประสานความร่วมมือปราบปรามกลุ่มดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น และพุ่งเป้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมากขึ้น

ส่วนนายปีเตอร์ นิวแมน ผอ.ศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาความรุนแรงของอังกฤษ ได้เปรียบกรณีเหตุโจมตีโรงงานก๊าซทางตะวันออกเฉียงใต้ใกล้เมืองลียงของฝรั่งเศส กับกรณีที่เกิดขึ้นในซิดนีย์ ออตตาวา และโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นฝีมือของผู้ก่อเหตุอุกอาจโดยลำพังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มไอเอสซึ่งเคยประกาศให้สมาชิกลงมือก่อเหตุได้ตามศักยภาพ โดยไม่ต้องรอคำสั่งหรือหารือกับใคร

เว็บไซต์ "ไซต์ อินเทลลิเจนซ์" รายงานเหตุกราดยิงที่โรงแรมอิมพีเรียล มาร์ฮาบา ในเมืองซูสซ์ หนึ่งในเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของประเทศตูนีเซีย ตั้งอยู่ห่างจากกรุงตูนิสไปทางตอนใต้ราว 140 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ศพ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 36 คน โดยกลุ่มไอเอสเปิดเผยจำนวนคนร้ายว่ามีเพียงคนเดียว คือนายอาบู ยาห์ยา อัล-เคย์ราวานี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ส่วนที่คูเวต กระทรวงมหาดไทยคูเวต แถลงว่า จับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่งที่พัวพันกับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในมัสยิดชีอะห์กลางกรุงคูเวตซิตี้ เมื่อวานนี้ที่มีผู้เสียชีวิต 27 ศ พ บาดเจ็บ 227 คน รัฐบาลจะดำเนินมาตรการทุกอย่างเพื่อจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย พร้อมกับประกาศให้วันเสาร์เป็นวันไว้อาลัย และจะมีการจัดพิธีศพผู้เสียชีวิตในวันพุธ

นักสอนศาสนาที่มัสยิด เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาที่แถวหลังในขณะที่คนประมาณ 2,000 คนกำลังละหมาดในช่วงเที่ยง แรงระเบิดรุนแรงมาก ด้านนักเคลื่อนไหวชาวชีอะห์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการมัสยิดชีอะห์ทุกแห่งจะเพิ่มการตรวจตราผู้เข้ามัสยิด และจะไม่ให้คนแปลกหน้าเข้า คูเวตมีชาวชีอะห์ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรที่เป็นชาวคูเวต 1.3 ล้านคน

ทีมข่าวต่างประเทศ

CR:The Express Tribune