แคนาดา อยู่ระหว่างเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 7 ประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่(กลุ่ม G7) ประกอบด้วยฝรั่งเศส สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ญี่ปุ่น อิตาลี และแคนาดาที่เมืองชาร์เลวอยซ์ รัฐควิเบก ทางภาคตะวันออกของแคนาดาในวันนี้(13 มี.ค.)เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯขู่ประกาศผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯและประกาศสงครามทางภาษีกับแคนาดาเมื่อเร็วๆนี้ สร้างความตึงเครียดให้กับแคนาดา ขณะที่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศจากกลุ่ม G7 มุ่งจะหารือเรื่องแผนสันติภาพในยูเครนเป็นหัวข้อสำคัญที่สุดของการประชุมครั้งนี้
ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ยอมรับว่า แคนาดาเผชิญภัยคุกคามความมั่นคง ถ้าสหรัฐฯประกาศยึดแคนาดาเป็นดินแดนส่วนหนึ่งในอนาคต พร้อมวิจารณ์รัฐบาลทรัมป์ว่า ต้องการจะทำลายเศรษฐกิจแคนาดา หวังทำให้การผนวกรวมแคนาดาเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหรัฐฯทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
ขณะที่นายมาร์ก คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางของแคนาดา ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต่อจากนายทรูโดในวันศุกร์นี้ (14 มี.ค.) กล่าวหา สหรัฐฯว่าต้องการจะยึดทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำ ป่าไม้ ด้านนางเมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาระบุว่า ที่ประชุมกลุ่ม G7 จะไม่พูดคุยกรณีนายทรัมป์ขู่ผนวกแคนาดาเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ย้ำว่า แคนาดาเป็นรัฐอิสระ อธิปไตยของประเทศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจจะนำมาเจรจาต่อรองกันได้
ขณะที่นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเลี่ยงตอบคำถามจากสื่อที่ถามในประเด็นนี้ ทั้งนี้ นายรูบิโอมุ่งหน้าไปยังเมืองชาร์เลวอยซ์ (รัฐควิเบก) เพื่อประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศจากกลุ่ม G7 หลังประชุมกับคณะผู้แทนยูเครนที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย เพื่อหารือข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียกับยูเครน ย้ำว่า สหรัฐฯจะแจ้งต่อที่ประชุมกลุ่ม G7 เพื่อทราบว่า สหรัฐฯส่งเสริมการสร้างสันติภาพในโลก หมายถึงการที่ยูเครนตกรับข้อเสนอจากสหรัฐฯเรื่องการหยุดยิงเบื้องต้น 30 วันกับรัสเซีย
#แคนาดา
#จัดประชุมG7
#แผนสันติภาพยูเครน