สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซีย รายงานอ้างนายเซอร์เกย์ โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกว่า รัสเซียสามารถยิงสกัดโดรนจากยูเครนทั้งหมด 69 ลำ ขณะมุ่งหน้ายังกรุงมอสโกในวันนี้ (11 มี.ค.) ผู้เสียชีวิต 1 รายและมีผู้บาดเจ็บ 3 คน จากสะเก็ดชิ้นส่วนของโดรนที่ร่วงหล่นลงมา มีอาคารหลายแห่งได้รับความเสียหายเช่นกัน
ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนของรัสเซียสั่งปิดสนามบิน 2 แห่งในกรุงมอสโก และปิดสนามบินอื่นๆอีก 2 แห่งทางตะวันออกของกรุงมอสโกชั่วคราวด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้ารายงานเรื่องนี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง จะเป็นการโจมตีกรุงมอสโกครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565
การโจมตีกรุงมอสโกในครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนคณะผู้แทนสหรัฐฯ นำโดยนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและนายไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯจะประชุมกับคณะผู้แทนจากยูเครน ประกอบด้วย ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ, รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบียในวันนี้(11 มี.ค.)
นายมาร์โก กล่าวว่า สหรัฐฯต้องการจะรับฟังว่า มีประเด็นใดบ้างที่ยูเครนพอจะผ่อนผันจุดยืนต่างๆในการเจรจาเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย พร้อมทั้งคาดว่า ผลการเจรจาครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดว่า สหรัฐฯควรจะกลับมาสนับสนุนด้านอาวุธ พร้อมทั้งร่วมมือด้านข่าวกรองกับยูเครนตามปกติ หรือไม่
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศระงับความช่วยเหลือด้านอาวุธและความร่วมมือด้านข่าวกรองกับยูเครน ไม่พอใจท่าทีแข็งกร้าวของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ระหว่างการประชุมในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อวันที่ 28 ก.พ.โดยผู้นำยูเครนแสดงท่าทีไม่อยากจะเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ท่ามความกังวลว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย อาจจะละเมิดข้อตกลงสันติภาพ และสั่งให้กองทัพรัสเซียกลับมารุกรานยูเครนในอนาคต
#ยูเครนโจมตีกรุงมอสโก
#เจรจาสันติภาพยูเครน
แฟ้มภาพ