นักวิชาการ ชี้หุ้นสหรัฐฯร่วงหนัก ต้องโทษนโยบายรีดภาษีของทรัมป์ เปรียบเหมือน'เด็กเล่นขายของ'

11 มีนาคม 2568, 10:01น.


           ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ได้โพสต์ ข้อความผ่านเพจส่วนตัว เรื่องหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก ว่า



Oh !!!! เมื่อคืน หุ้นในอเมริกา ตกระนาว



Dow Jones -890 จุด หรือ -2.1%



Nasdaq -728 จุด หรือ 4.0% แรงสุดของปีนี้ ซึ่งหากจะโทษใคร  ก็ต้องโทษ President Trump ที่พยายามกดดัน ข่มขู่ประเทศต่างๆ ด้วย Tariffs ทั้ง แคนาดา เม็กซิโก จีน จ้องที่จะจัดการ สหภาพยุโรป เป็นรายต่อไป แต่ที่สำคัญสุดระหว่างทาง เหมือนเด็กเล่นขายของ



            ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า ชะลอการขึ้น แบบเอาแน่ไม่ได้ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า เรียกมาเจรจา พอเขายอม ก็ผ่อนผันให้ 1 เดือนพอครบเดือน ก็ขึงขังประกาศเก็บ แบบไม่มีข้อยกเว้น ตลาดร่วง ครั้น ผู้ประกอบการสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ร้องว่า ทำอย่างนี้กระทบ Supply Chain และต้นทุนการผลิตของเขาก็ยอมถอย ประกาศยกเว้น โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ภายใต้สนธิสัญญาการค้าเสรี USMCA เรียกว่า ปรับเปลี่ยนเป็นรายวัน



          On-again ... Off-again เอาแน่ไม่ได้ สร้างความกังวลใจให้กับนักลงทุน ไม่แน่ใจว่าท่านประธานาธิบดีจะเปลี่ยนใจอะไรอีกวันนี้  จะมีอะไรออกมาอีกหรือไม่ ยิ่งล่าสุดมีคนพูดมากขึ้นว่า เศรษฐกิจจะชะลอ หรืออาจจะ Recession ท่านประธานาธิบดีก็ไม่ปฏิเสธให้ชัดๆ บอกว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลา และมีช่วง Transition นักลงทุนจึงยิ่งกังวลใจ โหวตด้วยเงินลงทุนของตนเอง ขายสินทรัพย์ต่างๆ ออกมา ส่งผลให้ Trump กลายเป็นประธานาธิบดีที่หุ้นตกมากที่สุด ในช่วง 50 วันแรก นับแต่ Global Financial Crisis (2009) ของ Obama โดย NASDAQ ได้ปรับตัวลดลงจาก Peak เมื่อธันวาคมที่แล้วถึง -13.4% หรือประมาณ 2,700 จุด



          ขณะที่ Tesla ของตัวช่วยสำคัญ มือขวาท่านประธานาธิบดี Elon Musk ก็ตกมาแล้ว อย่างน่าตกใจประมาณ 53.7% จาก Peak เมื่อธันวาคม



          จากกระแสความไม่พอใจใน Elon Musk และใช้การบอยคอต Tesla เป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงสหรัฐ ที่มาขึ้น Tariffs กับประเทศเขา และที่ Elon มาลดคน ลดเงินราชการ อย่างไม่เคยมีมาก่อน



         เรื่องนี้กำลังกลายเป็นความท้าทาย จุดอ่อนไหวของรัฐบาล Trump ล่าสุด มีคนถามท่านประธานาธิบดีว่า "ท่านกังวลใจกับหุ้นที่ตกหรือไม่" ท่านตอบว่า "หน้าที่ของผมคือสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งให้สหรัฐฯ ไม่สามารถดูหุ้นเป็นรายวันได้"



        "จีนมีมุมมอง 100 ปี สหรัฐฯชอบมองแค่ 1 ไตรมาส ... เราต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง สร้างพื้นฐานให้กับประเทศ" แต่สุดท้าย ก็คงไม่เป็นตามนั้น เพราะทุกคนจะพยายามใช้ประเด็นนี้มาทิ่มแทง ทำให้ต้องคอยตอบคำถามรายวัน ระหว่างที่รอ การลดภาษีที่กำลังเข้าสภา ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ



         สำหรับประชาชน ช่วงนี้เมื่อกระเป๋าเงินทุกคนถูกกระทบ ความไม่พอใจ เสียงไม่เห็นด้วย ก็จะเริ่มก่อตัวขึ้น เสียงสนับสนุนก็จะลดลง กระทบ Rating ของท่านประธานาธิบดี Honeymoon Period ของท่านประธานาธิบดี ก็จะจบลง เข้าสู่ช่วงใหม่ ที่เสียงแตกแยกมากขึ้น มีเสียงค้านดังมากขึ้น การทำงานก็จะยากมากขึ้น มาติดตามช่วงต่อไป ว่าทุกอย่างจะหมุนไปอย่างไร



         ท่านประธานาธิบดีจะฟันผ่าสิ่งที่ท่านเรียกว่า Transition Period หรือความเจ็บปวดระยะสั้น ไปได้ไหมและมาดูกันว่า หุ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จะมัดมือ มัดแขนช่วยลด Degree ความรุนแรงของนโยบายของท่านประธานาธิบดีได้บ้างหรือไม่ ในเรื่องต่างๆ รวมถึง Reciprocal Tariffs ที่จะออกมาในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า



 



#มาตรการรีดภาษี



#ทรัมป์



#หุ้นสหรัฐร่วงหนัก 



Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ กอบศักดิ์ ภูตระกูล



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X