เปิดคำร้อง แม่อดีตผกก.โจ้ ร้องเรียนให้ตรวจสอบผู้คุม กลั่นแกล้ง-ทำร้าย

09 มีนาคม 2568, 11:07น.


          หลังการเสียชีวิตของ พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนล อดีตผู้กำกับโจ้ ที่พบผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขังเรือนจำคลองเปรม เมื่อคืนนี้ (7 มี.ค. 68) ล่าสุดมีการเผยแพร่เอกสารหนังสือร้องเรียน ที่เขียนโดย นางสาวจันทร อุทธนผล แม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ส่งถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568



          เนื้อความในจดหมายระบุว่า เป็นเรื่องการกลั่นแกล้งและการใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ควบคุม ขอร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ควบคุมที่ชื่อว่า นายสิทธิพร แก้วคำบ้ง ซึ่งมีการกระทำส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และสิทธิขั้นพื้นฐานของนักโทษอย่างร้ายแรง แม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ ได้เขียนบรรยายรายละเอียดถึงพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงแรกคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปลายปี 2567 ประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม. เหตุการณ์เริ่มต้นจากมีนักโทษรายหนึ่ง ชื่อว่า นายสุรเชษ พูดใส่ร้ายอดีตผู้กำกับโจ้ ทำให้ผู้คุมหลายคนมีทัศนคติที่ไม่ดีและต่อว่าอดีตผู้กำกับโจ้ และนายสุรเชษ ยังขู่จะทำร้ายร่างกายอดีตผู้กำกับโจ้หลายครั้ง ซึ่งอดีตผู้กำกับโจ้คาดว่า สาเหตุที่ นายสุรเชษ ไม่พอใจตนเอง เป็นเพราะเคยขอร้องให้ไปสูบบุหรี่ไกลจากพื้นที่ห้องนอนของตัวเอง จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมที่ชื่อ นายสิทธิพร เริ่มมีพฤติกรรมกลั่นแกล้งอดีตผู้กำกับโจ้ โดยเรียกเข้าไปด่าว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงภายในห้องส่วนตัว / รื้อค้นสิ่งของส่วนตัว เช่น เอกสารสำคัญทางคดี จนทำให้เอกสารเสียหาย / และพยายามที่จะตั้งเรื่องเอาผิดอดีตผู้กำกับโจ้



          นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์การกลั่นแกล้ง เช่น ยึดเอกสารสำคัญทางคดี ซึ่งอดีตผู้กำกับโจ้จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการขึ้นศาล โดยอ้างว่านักโทษไม่สามารถเก็บไว้ได้ ต้องนำออกไปจากเรือนจำ แต่ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ระบุว่า นักโทษสามารถเก็บรักษาเอกสารทางคดีไว้กับตนเองได้ / เข้ายึดพัดลมที่อดีตผู้กำกับโจ้ขออนุญาตนำเข้ามาอย่างถูกต้อง เพราะมีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งแพทย์ระบุให้หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและให้ใช้พัดลมป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ / พยายามจะยึดแว่นตาดำของอดีตผู้กำกับโจ้ทั้งที่มีใบรับรองแพทย์ยืนยันถึงความจำเป็นในการใช้งานเนื่องจากอดีตผู้กำกับโจ้เกิดอุบัติเหตุที่ดวงตาขณะรับโทษในเรือนจำทำให้ดวงตาไม่สามารถรับแสงได้ เหตุการณ์ทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของอดีตผู้กำกับโจ้ จนทำให้สุขภาพทรุดหนัก มีอาการตัวสั่น โรคหัวใจกำเริบ ต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล จนแพทย์ต้องปรับยารักษาให้แรงมากขึ้น



          ส่วนเหตุการณ์ช่วงที่สองเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2568 โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 อดีตผู้กำกับโจ้พบว่า นายสุรเชษ เล่นเกมและดูสื่ออนาจาร ซึ่งผิดระเบียบของเรือนจำ จึงพูดกับนายสุรเชษว่าการกระทำนี้มีความผิด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมที่ชื่อ นายสิทธิพร ด่าทอ และต่อย-ผลัก จนเกิดรอยช้ำขนาดใหญ่บนร่างกาย ต่อมาวันที่ 10 มกราคม 2568 นายสิทธิพรก็ตั้งข้อกล่าวหาว่าอดีตผู้กำกับโจ้มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และให้นักโทษในความดูแลของตัวเองเป็นพยานยืนยัน อดีตผู้กำกับโจ้จึงถูกย้ายไปยังแดน 5 และถูกขังในซอย แม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ ระบุเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่กล่าวมาในจดหมาย เป็นเพียงบางส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น และยังทราบว่า นายสิทธิพร ยังมีพฤติกรรมกันแกล้งและกดดันนักโทษคนอื่นด้วย



          จึงขอร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของนายสิทธิพรอย่างละเอียด และดำเนินการทางวินัยหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง / ขอให้มีการนำตัวอดีตผู้กำกับโจ้ออกจากการคุมขังพิเศษที่แดน 5 โดยเร็ว / ขอให้แยกนายสิทธิพรออกจากพื้นที่ใกล้ชิดกับอดีตผู้กำกับโจ้เพราะกังวลว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัย / และขอให้อดีตผู้กำกับโจ้ ได้รับการคุมขังในพื้นที่ปลอดภัย โดยต้องเป็นแดนที่ไม่เสี่ยงอันตรายจากการถูกกลั่นแกล้ง ครอบครัวรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมากจากพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ควบคุมดังกล่าว ที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของอดีตผู้กำกับโจ้ และเกรงว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วอาจนำไปสู่ความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้



          ท้ายเอกสาร ยังได้มีการแนบใบรับรองแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งแพทย์ได้ระบุผลการตรวจร่างกายของอดีตผู้กำกับโจ้ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ได้รับบาดเจ็บบริเวณชายโครงซ้าย จากการกระแทกของแข็งไม่มีคม และพบแผลฟกช้ำเป็นวงเรียงต่อกันเป็นแนว ใต้ราวนมซ้าย นอกจากนี้ ยังมีเอกสารที่ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ ได้ไปแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายร่างกายไว้ที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 ด้วย



#โจ้ถุงดำ

ข่าวทั้งหมด

X