นายสตีเฟน มิลเลอร์ รองหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำวัย 78 ปีของสหรัฐฯจะแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา หรือ สภาคองเกรส ในคืนนี้(4 มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเช้าพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) เวลา 09.00น.ตามเวลาประเทศไทย นับเป็นการปราศรัยต่อสภาเป็นครั้งแรก หลังกลับมาบริหารประเทศสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ม.ค. พร้อมทั้งชูวิสัยทัศน์การเพิ่มอำนาจให้กับประธานาธิบดี และการจัดระเบียบโลกใหม่ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง 2 มหาอำนาจของโลกเช่น สหรัฐฯและรัสเซีย
นายมิลเลอร์ กล่าวว่า นายทรัมป์จะพูด 4 ประเด็นหลักๆ คือ เรื่องผลงานของรัฐบาลทรัมป์ ทั้งในประเทศและในต่างประเทศในช่วงการบริหารประเทศสมัยที่ 2,เรื่องนโยบายเศรษฐกิจ, เรื่องการผลักดันสภาคองเกรสให้ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณความมั่นคงชายแดน และแผนของรัฐบาลทรัมป์ในการสร้างสันติภาพทั่วโลก
ในเรื่องนโยบายในประเทศ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดว่า นายทรัมป์ จะแถลงคืบหน้าของการทำตามนโยบาย Make America Great Again เช่น คำสั่งปรับลดขนาดองค์กรของรัฐ การปลดคนงานของรัฐหลายพันคน การยกเลิกโครงการความหลากหลายทางเพศและการส่งผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวต่างชาติที่ไม่มีเอกสารเข้าเมืองอย่างถูกต้องไปกักขังยังค่ายทหารสหรัฐฯประจำอ่าวกวนตานาโม คิวบา
ส่วนในเวทีระหว่างประเทศ นายทรัมป์สร้างความปั่นป่วนในเวทีโลก เช่น สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วโลกด้วยการเริ่มต้นเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เพื่อยุติสงครามยูเครน โดยที่ยูเครนและพันธมิตรชาวยุโรปไม่ได้ร่วมเจรจาด้วย การประกาศระงับความช่วยเหลือทางทหารสำหรับยูเครน ประกาศยึดครองเขตฉนวนกาซาจากกลุ่มฮามาส พร้อมทั้งประกาศปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯเช่น แคนาดา เม็กซิโก และคู่แข่งด้านการค้าและเทคโนโลยีเช่น ประเทศจีน
การปราศรัยครั้งนี้มีขึ้น 4 วันหลังปะทะคารมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ระหว่างเยือนทำเนียบขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(28 ก.พ.)เป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การระงับความช่วยเหลือด้านอาวุธเพิ่มเติมสำหรับยูเครน
#ทรัมป์เตรียมปราศรัย
#สภาคองเกรส