ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปรับตัวลงต่อ 11 จุด ตามแรงขายหุ้นใหญ่ออกมาต่อเนื่องกดดัน อาทิ ADVANC TRUE CPALL ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยตลาดหุ้นฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย ปรับตัวลงกว่า 1% เมื่อเวลา 10.02 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,224.75 จุด ลดลง 11.10 จุด (-0.90%) ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดร่วงกว่า 10 จุด แรงขายจากหุ้นขนาดใหญ่กระจายทุกเซคเตอร์ โดยปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีแรงขายออกมาทั้งภูมิภาค จากความกังวลนโยบายนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามจำกัดการลงทุนของจีนในภาคส่วนสำคัญ รวมถึงเทคโนโลยีและพลังงาน และยังได้ประกาศเดินหน้าแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา และเม็กซิโก หลังจากที่เลื่อนมา 1 เดือน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง
ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,200 จุด และแนวต้าน 1,250 จุด
ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (25 ก.พ.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการลงทุนจากจีน และยังได้ประกาศเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีจีนด้วย ปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,196.33 จุด ลดลง 145.28 จุด หรือ -0.62%
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (25 ก.พ.) จากปัจจัยปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,345.99 จุด ลดลง 430.95 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นอย่างหนัก เนื่องจากกลับมากังวลถึงผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่จะมีต่อบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มยานยนต์และบริษัทที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเดินหน้าเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกหลังจากที่ได้เลื่อนการบังคับใช้มาแล้วหนึ่งเดือน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งร่วงลงตามทิศทางของหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดสหรัฐฯ
#หุ้นเอเชีย
#ทรัมป์เก็บภาษีจีน