+++สถานการณ์ภัยแล้ง นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ปรากฏการณ์เอลนิโญ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกน้อยตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2558 และเกิดปัญหาภัยแล้ง กระทรวงได้แบ่งกลุ่มเกษตรกรชาวนาเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัดที่ประสบปัญหาปลูกข้าวนาปีจากวิกฤตภัยแล้ง 3 กลุ่มคือ 1.เกษตรกรที่เริ่มการเพาะปลูกข้าวแล้ว 3.44 ล้านไร่ ก่อนที่กรมชลประทานประกาศชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปีไปก่อน ในจำนวนดังกล่าวพบว่ามีพื้นที่ปลูกข้าวที่เสี่ยงต่อความเสียหาย 8.5 แสนไร่ 2.กลุ่มที่เพิ่งเริ่มปลูกข้าวหลังกรมชลประทานประกาศชะลอการปลูกข้าว 5.6 แสนไร่ 3.กลุ่มที่ยังไม่ได้เริ่มการปลูกข้าวอีก 3.45 ล้านไร่
+++นายปีติพงศ์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะหารือกับกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ได้แก่ มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรในฤดูกาลผลิตปี 2558/2559 ออกไปก่อน โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีหนี้กับ ธ.ก.ส.และยังไม่ได้เริ่มปลูกข้าวนาปี 3.45 ล้านไร่ เนื่องจากขณะนี้เกษตรกรไม่มีรายได้ในการปลูกข้าว คาดว่า อีก 2 สัปดาห์จะมีความชัดเจนประกาศมาตรการช่วยเหลือได้
+++นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา คือ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เหลือปริมาณน้ำใช้การได้ 1,067 ล้าน ลบ.ม. หากกรมชลประทาน ยังส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและส่งน้ำเพื่อการเกษตร 33 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน จะเหลือน้ำใช้การได้อีก 32 วันเท่านั้น ดังนั้นกรมชลประทาน เตรียมลดปริมาณการส่งน้ำลงอีก 5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เหลือ 28 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เพื่อให้เหลือน้ำใช้เพียงพอถึงวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าฝนจะตกในปลายเดือนสิงหาคมนี้ และมั่นใจว่าปริมาณน้ำจะเพียงพอไม่ถึงขั้นวิกฤตน้ำใช้
+++นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและการทำฝนหลวงในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ กระทรวงมีมาตรการเพิ่มเติมสั่งการให้เพิ่มเที่ยวการทำฝนหลวงขึ้นอีก ได้สั่งให้ย้ายเครื่องบินทำฝนหลวงจากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงระยอง 2 ลำ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงกระบี่ 2 ลำ และกองทัพอากาศ 1 ลำ เพื่อมาช่วยยังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ
+++ ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร แถลงผลกระทบทางเศรษฐกิจของโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558/2559" ที่ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร บางเขน
+++เรื่องของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธุปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกตำรวจญี่ปุ่น รวบคาสนามบินขณะจะขึ้นเครื่องกลับไทย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียวว่า อ้างอิงเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียวว่า อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของอัยการว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสำนวนให้แล้ว พร้อมประสานทนายความพบกับอัยการ เนื่องจากต้องสงสัยละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน เนื่องจากพบปืนลูกโม่ 1 กระบอก บรรจุกระสุน 5 นัด ในกระเป๋าเดินทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อ้างว่าเป็นปืนที่ได้รับเป็นของขวัญจากเพื่อน และลืมไปแล้วว่ามีปืนอยู่ในกระเป๋า
+++พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผบก.กองการต่างประเทศ กล่าวว่า หากศาลประเทศญี่ปุ่นตัดสินว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีความผิดจริง ตามขั้นตอนของกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องการประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะต้องรับโทษ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ก่อนประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทยได้
+++ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงโทษในการครอบครองอาวุธปืนคือจำคุก 1-10 ปี และโทษในการครอบครองกระสุนปืนคือจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 1 ล้านเยน (ประมาณ 276,000 บาท)
+++ช่วงบ่ายนี้ การท่าอากาศยานไทย(ทอท.) ชี้แจงเรื่องปืนที่ใส่ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดไปไว้ใต้ท้องเครื่องบิน ว่าผ่านเครื่องตรวจจับระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ได้อย่างไร
+++ก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ ทอท.แล้วว่ามีการตรวจสอบภาพ และไม่พบการพกพาอาวุธปืนออกไปโดยมีหลักฐานยืนยันได้ว่าไม่มีประเด็นถึงความบกพร่องที่ผ่านออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผล กระทบต่อความเชื่อมั่นระบบการรักษาความปลอดภัยสนามบินพร้อมกับกำชับให้เข้มงวดกับทุกคน รวมทั้งบุคคลวีไอพีจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจค้นจะต้องไม่มีการยกเว้นบุคคลสำคัญแต่ก็ต้องให้เหมาะสม ซึ่ง ทอท.พร้อมแสดงหลักฐานโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ต่อสาธารณะได้
+++การจับกุม น.ส.ชญาภา โชคพรบุศศรี ผู้ปล่อยข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการปฏิวัติซ้อน โดยถูกจับกุมได้พร้อมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แทบเลต สมาร์ทโฟน กล้องถ่ายวิดีโอ และเอกสารบางส่วน ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ น.ส.ชญาภา ยอมรับว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการนำเผยแพร่ข้อความที่สร้างความตื่นตระหนก ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว จากการสืบสวน น.ส.ชญาภา เป็นระดับผู้ปฏิบัติการ รับข้อมูลมาจากกลุ่มที่มีความเห็นต่างทางการเมืองในต่างประเทศ ทั้งในลักษณะสร้างความตื่นตระหนก และลักษณะหมิ่นเบื้องสูง นอกจากนี้ ยังพบมีความเชื่อมโยงกับ นายเอนก ซานฟราน ผู้จ้างวานปาระเบิดศาลอาญา ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผล เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผิดตามมาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และจะควบคุมตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลทหารกรุงเทพในวันนี้
+++พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการสอบสวนคดียักยอก ฉ้อโกงสหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด สัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมชุดพนักงานสอบสวนทุกชุด เพื่อเตรียมสรุปสำนวนคดี ประกอบด้วย 1.ชุดติดตามร่องรอยทางการเงินจากสหกรณ์ทั้งในส่วนสั่งจ่ายเป็นเช็ค 878 ฉบับ และการเบิกเงินสดของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ 2.ชุดตรวจสอบการทำบัญชีของสหกรณ์ 3.ชุดตรวจสอบข้อกฎหมาย ระเบียบสหกรณ์ 4.ชุดติดตามทรัพย์สินที่ถูกดึงออกจากระบบสหกรณ์ และ5.ชุดเลขานุการอำนวยการสอบสวนคดีและสอบปากคำพยานและหากหลักฐานเชื่อมโยงผู้เข้าข่ายกระทำผิด จะเรียกเข้าให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา นี้ตั้งเป้าสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จสิ้นในเดือน ก.ค. เพื่อให้ทันกำหนดการฝากขังนายศุภชัย ซึ่งความผิดในส่วนเจ้าหน้าที่จะต้องสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช. ไต่สวนความผิดต่อไป
+++นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานแก้ไขปัญหาแข่งรถและการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้สถานศึกษา ได้สั่งให้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของกระทรวงยุติธรรมไปปรับร่างกฎหมายที่จะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า (คสช.) ออกเป็นประกาศคำสั่งคสช.ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ว่า คณะทำงานกำลังพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มมาตรการเชิงบริหารมากขึ้น เน้นการบังคับใช้กฎหมาย คณะทำงานจึงต้องเขียนออกมาให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นระบบ ในวันนี้ จะหารือรายละเอียดกับคณะทำงานก่อนเพื่อตรวจสอบร่างคำสั่งจากนั้นจะเสนอไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ เพื่อพิจารณาก่อนเรียกประชุมอีกครั้ง
+++เมื่อคืนนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบร้านโสตสโมสรและสภาโสต ซึ่งเป็นสถานบันเทิงใกล้สถานศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ภายในโครงการเมืองเอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จากการตรวจสอบร้านดังกล่าว พบการกระทำความผิด 3 ข้อหาคือ เปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราเกินเวลาตามที่กฏหมายกำหนด และสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ จึงมอบให้สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิตดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเอาจริงเอาจังสถานบันเทิงในย่านมหาวิทยาลัย ให้เปิดได้ถึงเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น และจะมีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบสถานบันเทิง ให้เปิดเป็นเพียงร้านอาหารเท่านั้น
+++ข้อเสนอเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้ทุกคนเลิกพูดเรื่องกาสิโน ไม่อยากให้ทุกคนมุ่งให้ความสำคัญ เพราะจากการฟังเบื้องต้นยังไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบใด จึงต้องรอให้ได้ข้อสรุปก่อน และยังไม่เกิดในขณะนี้ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจ ไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ และให้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( ผบ.ตร.)เลิกพูดแล้ว เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนตัวศึกษาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจ เนื่องจากคนทั้งประเทศต้องตัดสินใจด้วยกันว่าจะเกิดหรือไม่เกิดประโยชน์อย่างไร และจะต้องมีการศึกษาต่อไป แต่ไม่สามารถวัดได้จากผลโพล เพราะโพลไม่ใช่ข้อกฎหมาย แต่กฎหมายคือการทำประชามติ แต่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เพราะมีคนทำงานศึกษาเรื่องนี้อยู่แล้ว
+++นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) แถลงว่า ได้รับการประสานจากสปช. กลุ่มรักชาติ ว่า จะขอยุติการตอบโต้ชี้แจงประเด็นนี้ เป็นเพียงการนำเสนอในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับสปช. โดย สปช.กลุ่มนี้จะทำเป็นหนังสือรายงานผลการศึกษาในรูปแบบสิงคโปร์โมเดล แต่จะไม่นำเข้าหารือในที่ประชุมสปช.
CR:กลุ่มบารมี,Fnn news